“โพลสถาบันพระปกเกล้า" คนกรุงเทใจให้ "ชัชชาติ" นำโด่งผู้ว่าฯ กทม.

11 พ.ค. 2565 | 09:09 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ค. 2565 | 16:12 น.

“โพลสถาบันพระปกเกล้า" สำรวจผู้ว่าฯ กทม. พบคนกรุงเทใจให้ "ชัชชาติ" มาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วย “สุชัชวีร์-อัศวิน-วิโรจน์” ชี้ปัญหาเร่งด่วนอยากให้เร่งแก้ขนส่งสาธารณะ -จราจร

วันนี้( 11 พ.ค.65) สถาบันพระปกเกล้า แถลงผลสำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมของประชาชนต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)  2565

 

นางถวิลวดี บุรีกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัย และพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่าจากการสำรวจประชาชน 1,038 คน เป็นผู้ตอบแบบสำรวจที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 702 คนโดยเป็นผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกถึง 79.8% และเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง 336 คน

 

ในประเด็นความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. 2565 พบว่า ประชาชนไม่ทราบจำนวนบัตรเลือกตั้งวันที่ 22 พ.ค. ถึง 30.1% รองลงมาคือไม่ทราบระยะเวลาในการลงคะแนนเสียง 51.3% ไม่ทราบบทบาทหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม. 36.2% ไม่ทราบบทบาท ส.ก. 35.5% และไม่ทราบจำนวนของ ส.ก. 58% 

 

“โพลสถาบันพระปกเกล้า\" คนกรุงเทใจให้ \"ชัชชาติ\" นำโด่งผู้ว่าฯ กทม.

สำหรับผลการสำรวจการตัดสินใจในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง พบว่า ประชาชนเลือก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ 42.4% รองลงมาคือนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ 12% พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง 6.7% นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 5.7 นายสกลธี ภัททิยะกุล 5.7% น.ส.รสนา โตสิตระกูล 2.7% นายโฆสิต สุวินิจจิต 2.3% ยังไม่ได้ตัดสินใจมีจำนวน 18.2% และไม่ประสงค์ลงคะแนน 2%


สำหรับความเห็นของผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง หากเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะเลือกใครนั้นพบว่า อันดับหนึ่ง ยังคงเทคะแนนให้ นายชัชชาติ 52.9% รองลงมา นายวิโรจน์ 10.8% นายสุชัชวีร์ 10.5% พล.ต.อ.อัศวิน 6% นายสกลธี 3% น.ส.รสนา 3% น.ต.ศิธา 1.2% ยังไม่ได้ตัดสินใจ 7.5% และไม่ประสงค์ลงคะแนน


นายถวิลวดี กล่าวอีกว่า ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม. อันดับหนึ่งคือนโยบายของผู้สมัคร  62.3% รองลงมาคือ ประสบการณ์การทำงานของผู้สมัคร 48.9% และการพูดจริงทำจริง จริงใจใสการแก้ไขปัญหา 29.9% 


ส่วนประเด็นที่ประชาชนอยากให้ผู้ว่าฯ กทม.ดำเนินการอันดับหนึ่งคือ การขนส่งสาธารณะและการจราจร 66.4% การจัดการสิ่งแวดล้อม ความสะอาด และพื้นที่สีเขียว 64.2% ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 52.5% ปัญหาน้ำท่วมขัง 45.4% และระบบสาธารณสุข และสุขอนามัย 41.7% 

ส่วนของความเชื่อมั่นในการเลือกตั้ง พบว่า เชื่อว่าจะมีการซื้อเสียงเลือกตั้ง 71.9% รองลงมาคือ เชื่อว่ากกต.จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างสุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม 49.1%

 

นอกจากนี้ ผลสำรวจความตระหนัก ความสนใจ และความตั้งใจที่จะไปเลือกตั้งพบว่า ไปเลือกตั้งแน่นอน 93.6% รองลงมาคือระบุชื่อผู้สมัครผู้ว่ากทม.ได้อย่างน้อย 5 คน 82.5% และทราบว่าคูหาเลือกตั้งอยู่ที่ใด 85.2%


นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักวิจัย​และพัฒนา​ สถาบันพระปกเกล้า​กล่าวถึงผลการสำรวจในครั้งนี้ว่า  ผลสำรวจในครั้งนี้ให้ความสำคัญกับผู้ที่ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วย เพราะในข้อเท็จจริงแล้วประชากรกรุงเทพฯ มีมากกว่า จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4.3 ล้านคน ผลสำรวจครั้งนี้จึงนำความคิดเห็นของประชากรที่ไม่มีเสียงเลือกตั้งเข้ามาด้วย ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะมีประโยชน์กับผู้สมัครหรือผู้ที่มีโอกาสที่จะเข้ามาเป็นผู้ว่าจะต้องนำไปใช้