วันนี้ (13 พ.ค.65) ที่หอประชุมสถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร อำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และทีมผู้บริหารพรรค อาทิ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคใต้ นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการพรรค นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรคและโฆษกพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคและประธานภาคกลาง นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ กรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย และ นายบุญส่ง ชเลธร รองเลขาธิการพรรค ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยมี นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ นางสาววารินทร์ ชินวงศ์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ยกขบวน 15 กลุ่มอาชีพท้องถิ่น และประชาชน 500 คน พื้นที่อำเภอทุ่งสง เข้าพบรับฟังนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจแก้จนคนภาคใต้ ด้านชุมชนหนุนพรรคแก้ปัญหาเศรษฐกิจคนใต้ วอนส่งเสริมอาชีพรากหญ้า พัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แก้ปัญหาปากท้องประชาชน
นายอุตตม กล่าวว่า การเดินทางมาที่สถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร ก็เพื่อมารับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน นำไปประกอบกับนโยบายหลักของพรรค ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และกิจกรรมต่างๆ ของสถาบันการเงินบ้านวังไทร ก็เป็นโมเดลต้นแบบที่ดีในการนำไปต่อยอดพัฒนาแนวคิดใหม่ๆ ที่จะทำให้นโยบายที่ออกมาสามารถตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง
“ผมเดินทางมาที่บ้านวังไทรเป็นครั้งที่สอง จากครั้งแรกเดินทางมาสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อต้นปี 2563 โดยวันนี้พบว่า สถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร มีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะน่าสนใจ เพราะแม้เศรษฐกิจในภาพรวมประเทศ จะเผชิญกับปัญหามากมายในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผลกระทบที่ได้รับจากการระบาดของโควิด แต่สถาบันการเงินแห่งนี้กลับมียอดสินทรัพย์เพิ่มขึ้น จากการดำเนินกิจกรรมที่เข้มแข็งในพื้นที่เอง”
พรรคสร้างอนาคตไทยคิดว่า การสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งต้องเริ่มจากชุมชน แต่หลายอย่างต้องต่อยอดพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ ภาคใต้มีศักยภาพแต่ยังไม่สามารถศักยภาพตัวเองมาใช้ได้อย่างเต็มที่ พรรคตั้งใจจะเข้ามาต่อยอดศักยภาพที่มีอยู่ ทั้งการเกษตร การท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรม โดยพรรคมีบุคลากรที่มีความพร้อมและเชี่ยวชาญการทำงานด้านฐานราก ที่จะขับเคลื่อนความเข็มแข็งให้พี่น้องประชาชน
“พื้นที่นครศรีธรรมราชมีศักยภาพสูงมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ดังนั้น เราต้องเชื่อมโยงการท่องเที่ยวให้เป็นโครงข่ายระหว่างฝั่งอันดามันกับฝั่งอ่าวไทย เพื่อถ่ายเทนักท่องเที่ยวให้หมุนเวียนทั่วทุกพื้นที่ ถือเป็นการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกัน เพื่อยกระดับความเข้มแข็งร่วมกันในภาพรวม” หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ระบุ
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก พรรคสร้างอนาคตไทยจะใช้กลไกที่มีประสิทธิภาพนี้ให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจฐานรากท่ามกลางภาวะวิกฤติเช่นนี้
นอกจากนี้คณะทำงานด้านนโยบายของพรรค ยังได้พิจารณาเครื่องมืออื่นๆ กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งของรัฐที่มีอยู่ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคาร ธ.ก.ส. รวมถึงองค์กรภาคประชาสังคมอย่างเช่น พอช. (สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน) ที่จะต้องเข้ามาบูรณาการร่วมกัน โดยรัฐเป็นผู้นำนโยบายผลักดันให้เม็ดเงินและความเข้มแข็งของการพัฒนาลงไปให้ถึงระบบเศรษฐกิจฐานรากให้ได้
แต่ทั้งหมดจะต้องเกิดจากการที่พี่น้องฐานรากมีความเข้มแข็งด้วยตัวเองจากภายในขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ พรรคจะออกเป็นแคมเปญนโยบายมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อการทำงานในอนาคต และการที่พรรคมาที่นี่เพื่อมาติดตามสิ่งที่เคยทำไว้ในอดีต มีอะไรที่ต้องเพิ่มเติมเพื่อนำไปปรับเป็นนโยบายที่เหมาะสม ให้ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ พรรคสร้างอนาคตไทย ยังให้ความสำคัญต่อพืชเศรษฐกิจ อย่างปาล์มน้ำมัน และ ยางพารา ซึ่งในสมัยที่ตน และ ดร.อุตตม ได้ทำงานร่วมกันในรัฐบาล ได้ร่วมกันผลักดันนโยบายดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่ 3.50-4 บาทต่อกิโลกรัม แต่ก็เป็นเพียงราคาในระดับที่เกษตรกรอยู่ได้ แต่ยังไม่ถึงกับมีเงินเหลือ
จึงผลักดันนโยบายน้ำมันบี 10 เพื่อเพิ่มการใช้ปาล์มน้ำมันในภาคพลังงาน และนับเป็นจุดเริ่มให้ราคาปาล์มน้ำมันขึ้นไปจนถึง 7 บาทต่อกิโลกรัม และทะลุถึง 12 บาทต่อกิโลกรัมในปัจจุบัน
“พรรคทราบดีว่าปาล์มน้ำมันและยางพารา เป็นหัวใจสำคัญของเศษฐกิจภาคใต้ พรรคมีความพร้อมในการทำนโยบายดังกล่าว พรรคมีความเขี่ยวชาญในนโยบายปาล์มน้ำมันและยางพารา ที่จะทำให้พี่น้องชาวใต้ที่เป็นเกษตรกรปลูกปาล์มและปลูกยางมีชีวิตที่ดีขึ้น และต่อจากนี้จะประกาศนโยบายยางพาราต่อไป”
ผู้สื่อข่าวถามว่าภาคใต้มีผู้สมัครส.ส.ครบทุกเขตหรือยัง นายสนธิรัตน์ตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ถือว่าครบ เพราะว่าพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้เน้นว่าจะส่งผู้สมัครให้ได้มากที่สุด แต่เราเน้นคุณภาพของผู้สมัคร ที่จะอยู่กับพี่น้องประชาชน ทำงานกับพรรคและเป็นความหวังของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
“อย่างเช่นที่นี่ เรามีอดีตรองผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช ถาวรวัฒน์ คงแก้ว มาเป็นตัวแทนของพรรคในอนาคต ซึ่งเราคัดคนที่ใช่ที่สุดที่จะทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน และวันนี้เรามีผู้สนใจจำนวนมาก และพรรคก็กำลังพิจารณาในรายละเอียด ขอย้ำว่า พรรคไม่ต้องการเพียงแค่ปริมาณ แต่ต้องเป็นคนที่สร้างพลังต่อการทำงานการเมืองในการร่วมกันสร้างอนาคตไทยได้”
สำหรับการลงพื้นที่ภาคใต้ในวันที่ 13-14 พฤษภาคมนี้ นอกเหนือจากการพบกลุ่มอาชีพท้องถิ่น ในจังหวัดนครศรีธรรมราชในวันนี้แล้ว ทีมคณะผู้บริหารพรรคสร้างอนาคตไทย จะเปิดตัวผู้แสดงเจตนารมณ์เป็นผู้สมัครพรรคสร้างอนาคตไทยจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพบปะกลุ่มภาคธุรกิจในจังหวัดนครศรีธรรมราช อาทิ สภาอุตสาหกรรมและหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช และพบปะกลุ่มผู้ประกอบการปาล์มน้ำมันในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อแสดงนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย และรับฟังปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) อีกด้วย