นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อที่ประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท วาระแรก เป็นวันสาม โดยเปิดประเด็นกับกระทรวงการคลังต่อการเปิดประมูลโครงการท่อส่งน้ำในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ซึ่งย้ำถึงการเปิดประมูลที่ส่อว่าไม่โปร่งใส ขัดต่อการประกาศวิสัยทัศน์ของหน่วยงาน
ทั้งนี้ ในกลางเดือนก.ค. หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ฐานะประธานอีอีซี ไม่ทำให้โปร่งใส เกิดประโยชน์ต่อแผ่นดิน จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ฐานะกรรมการที่ราชพัสดุ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่รับมอบอำนาจจากรมว.คลังให้เป็นกรรมการที่ราชพัสดุ
แต่ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้สอบกรรมการที่ราชพัสดุ จำนวน 6 คน ที่ยกเลิกการประมูลในครั้งแรก ทำให้บริษัทอีสท์วอเตอร์เสียสิทธิ์
นอกจากนี้ ข้อสังเกตงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ยังพบการจัดสรรการซื้อยุทโธปกรณ์ ที่ส่อความไม่โปร่งใส โดยกองทัพเรือ พบว่าปี 2566 มีคำขอ 4.03 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่อว่าตั้งงบไม่เหมาะสม เพราะซื้อเรือดำน้ำจี S26-T แต่ไม่มีเครื่องยนต์
และจัดงบเพื่อซื้ออากาศยานไร้คนขับ หรือ ยูเอวี รุ่นเฮอเมส 900 ที่พบว่ามีอัตราการตกบ่อย จากบริษัทในประเทศอิสราเอล โดยจะซื้อ 3 ลำ งบประมาณ 4,070 ล้านบาท ลำละ 1,340 ล้านบาท ขณะที่กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ ซื้อเพียงลำละ 340 ล้านบาท ดังนั้น การใช้งบของกองทัพประเทศไทยนั้นไม่โปร่งใส และขอมาในร่างพ.ร.บ.งบฯ
นายยุทธพงศ์ อภิปรายด้วยว่าสำหรับกองทัพอากาศ ปี 2566 ของบประมาณเพื่อซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35A มูลค่า 2,700 ล้านบาท ซึ่งมีเพียงเครื่องบินและเครื่องยนต์ ไม่มีอาวุธ ทั้งนี้ ราคาเครื่องบินรุ่นดังกล่าวมีราคาแพง ต้องมีค่าใช้จ่ายบินเป็นชั่วโมงละ 1.2 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ F16 ชั่วโมง 2 แสนบาท ถือว่าแพงขึ้น 6 เท่าตัว ในช่วงที่ประเทศมีวิกฤตงบประมาณโควิด-19 และราคาน้ำมัน ดังนั้น ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ เลือกว่า จะช่วยประชาชนที่เดือนดร้อน หรือซื้อเรือดำน้ำ เครื่องบิน ที่ไม่รู้ว่าจะรบกับใครในสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าจะให้การปราบคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ ตนมีข้อมูลและหลักฐานที่เตรียมมอบให้ คือ พบการซื้อขายตำแหน่งและเรียกรับเงินในกรมทรัพยากรน้ำ ที่เปิดสอบคัดเลือก ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรน้ำและ ผู้อำนวยการสำนักด้านวิศวกรรมระดับสูง สำนักอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ คือ ระดับซี 9 เมื่อเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ข้าราชการน้ำดี สอบตามอาวุโส และคุณสมบัติ ปรากฏว่ามีบุคคลลึกลับ ชื่อ "เฮีย ซ." โทรศัพท์ เรียกเงินแปดหลักจากข้าราชการ แต่ข้าราชการไม่มีเงินจ่าย ทำให้การคัดเลือกดังกล่าวถูกเลื่อนออกไป
"คำถาม คือ เหตุการณ์แบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าปราบโกงเป็นวาระแห่งชาติ กล้าปราบหรือไม่ ขอให้ส่งคนมาติดต่อ และให้ผมเข้าพบ ผมพร้อมเข้าพบ และมีหลักฐาน ทำไมไม่ทำ เฮีย ซ. มีอิทธิพลมากในกรมทรัพยากรน้ำ" นายยุทธพงศ์ ระบุ