จากกรณี นายพิทักษ์ชัย รักสุข คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านหมู่บ้านทุ่งน้ำใส รวมจํานวน 3 ศพ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 จากนั้นคนร้ายได้บุกเข้ามาในสํานักงานอัยการจังหวัดแพร่ พร้อมอาวุธปืนและวัตถุระเบิดจํานวนหลายลูกติดตัวมาด้วย
คนร้ายได้ล็อคประตูทางเข้า-ออก สํานักงานอัยการ จังหวัดแพร่ ทําให้ข้าราชการและบุคลากรแตกตื่นและตกใจหนีขึ้นไปชั้นบน แล้วคนร้ายบุกเข้าไปห้องอัยการจังหวัด โดยพลการ ซึ่งวันดังกล่าวอัยการจังหวัดติดราชการอื่นไม่อยู่ในสํานักงาน
คนร้ายจึงลงมายืนอยู่ชั้นล่าง ในขณะนั้น พ.ต.ท.ปรีชา จิตต์หมิ่น อัยการผู้กลั่นกรองงาน สํานักงานอัยการจังหวัดแพร่ กําลังปฏิบัติงานอยู่ในห้องทํางานซึ่งอยู่ชั้นบน เมื่อข้าราชการและบุคลากร วิ่งขึ้นมาชั้นบน พ.ต.ท.ปรีชา จิตต์หมั่น แจ้งข้าราชการและบุคลากรทั้งหมดเข้าไปอยู่ห้องตนเอง และ กําชับให้ล็อคห้อง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ปีนออกทางหน้าต่างแล้วกระโดดลงไปชั้นล่าง โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ทุกคน ในห้องนั้นว่ายอมบาดเจ็บดีกว่าเสียชีวิต
จากนั้น พ.ต.ท.ปรีชา จิตต์หมั่น ได้ลงมาเผชิญหน้าคนร้ายด้วยความกล้าหาญ พร้อมเจรจาและ พูดคุยกับคนร้าย โดยใช้เวลาพอสมควร จนทําให้คนร้ายมีท่าที่สงบลง ซึ่งภายหลังนายพิทักษ์ชัย คนร้ายได้แจ้ง ความประสงค์กับ พ.ต.ท.ปรีชา จิตต์หมั่น ว่า ตนอยากมอบตัวกับตํารวจท่านหนึ่งซึ่งย้ายมาจากจังหวัดน่าน
พ.ต.ท.ปรีชา จิตต์หมั่น จึงได้ตะโกนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ 191 ที่ปิดล้อมสํานักงานไปตามตัวนายตํารวจท่านนั้นมา เมื่อนายตํารวจคนดังกล่าวมาถึง นายพิทักษ์ชัย คนร้ายได้ยอมมอบตัว โดยเจ้าพนักงานได้ยึดระเบิดจํานวน หลายลูกไปจากคนร้าย
จากเหตุดังกล่าว ข้าพเจ้าในฐานะอัยการสูงสุด และในนามข้าราชการฝ่ายอัยการของสํานักงาน อัยการสูงสุดทุกคนขอชื่นชมในความกล้าหาญและปฏิภาณไหวพริบของ พ.ต.ท.ปรีชา จิตต์หมั่น ในการเผชิญเหตุ ในภาวะคับขันและเจรจากับคนร้ายจนเหตุการณ์คลี่คลาย สามารถช่วยเหลือและรักษาชีวิตของข้าราชการ ฝ่ายอัยการตลอดจนบุคลากรของสํานักงานอัยการจังหวัดแพร่จนปลอดภัยดีทุกคน
ข้าพเจ้าในฐานะอัยการสูงสุด จึงขอชื่นชม พ.ต.ท.ปรีชา จิตต์หมั่น อัยการจังหวัดประจําสํานักงานอัยการสูงสุด ทําหน้าที่อัยการผู้กลั่นกรองงาน สํานักงานอัยการจังหวัดแพร่ มา ณ โอกาสนี้
นายสิงห์ชัย nนินซ้อน
อัยการสูงสุด