ประกาศกฎใหม่ "ข้าราชการรัฐสภา" ทำงานได้อีก10ปี หลังอายุครบเกษียณ

25 มิ.ย. 2565 | 01:04 น.
อัปเดตล่าสุด :25 มิ.ย. 2565 | 08:20 น.

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกฎใหม่ "ให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญ" วัยเกษียณ ทำงานได้สูงสุด10ปี หลังอายุครบ60ปีบริบูรณ์ ในบางตำแหน่งที่ขาดแคลน ใช้ความสามารถเฉพาะตัว หาผู้ปฏิบัติงานแทนได้ยาก

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 65 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่กฎใหม่ คือ "กฎ ก.ร.ว่าด้วยการให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ซึ่งมีอายุครบหก 60 บริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2565"  

 

กฎใหม่นี้จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือ นับตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป โดยมีเนื้อหาระบุว่า 


อาศัยอํานาจตามความพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 ก.ร. จึงออกกฎ ก.ร. ให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใดซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณใด และดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือดํารงตําแหน่งประเภท ทั่วไป ระดับอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ

 

"รับราชการต่อไปเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบ หกสิบปีบริบูรณ์ตามกฎ ก.ร. นี้"  จะต้องเป็นกรณีที่มีเหตุผลและความจําเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ

โดยตําแหน่งที่จะให้ผู้นั้นรับราชการต่อไปต้องเป็นตําแหน่งที่ ก.ร. กําหนดให้เป็นตําแหน่งที่มีความขาดแคลน บุคลากรในเชิงปริมาณ หรือเชิงคุณภาพ ต้องใช้ความรู้ความสามารถประสบการณ์ทางวิชาการ ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับกระบวนงานของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในทางวิชาการหรือหน้าที่ ที่จะต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว และหาผู้อื่นปฏิบัติงานแทนได้ยาก

 

ทั้งนี้ ตามบัญชีตําแหน่งที่ ก.ร. กําหนดให้เป็นตําแหน่งที่ได้รับราชการต่อไป ท้ายกฎ ก.ร. นี้


ส่วนกําหนดเวลาที่จะให้รับราชการต่อไปตามกฎ ก.ร. นี้ ให้กระทําได้ตามความจําเป็น โดยในครั้งแรกให้สั่งให้รับราชการต่อไปได้ไม่เกิน 4 ปี และถ้ายังมีเหตุผลและความจําเป็นจะให้รับราชการ ต่อไปอีกได้ครั้งละไม่เกิน 3 ปี แต่เมื่อรวมกันแล้วระยะเวลาทั้งหมดต้องไม่เกิน 10 ปี

เมื่อครบกําหนดเวลาที่สั่งให้รับราชการต่อไป ให้สั่งให้ผู้นั้นพ้นจากราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ แต่ถ้าความจําเป็นที่ให้ผู้นั้นรับราชการต่อไปหมดลงก่อน ครบกําหนดเวลาดังกล่าว จะสั่งให้ผู้นั้นพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ ก่อนครบกําหนดเวลาดังกล่าวก็ได้ แต่ต้องแจ้งให้ผู้นั้นทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน


ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาใดมีความจําเป็นที่จะให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญซึ่งจะมีอายุ ครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไปเมื่อสิ้นปีงบประมาณนั้น ให้ส่วนราชการนั้นจัดทําข้อมูลเพื่อใช้ ประกอบการพิจารณา ดังนี้

  1. แผนงาน โครงการ ตลอดจนภารกิจที่มีความจําเป็นจะให้ผู้นั้นปฏิบัติ จําแนกเป็นรายปี
  2. สภาวะการขาดแคลนบุคลากรในเชิงปริมาณ หรือเชิงคุณภาพทั้งในส่วนราชการนั้นและ ในภาพรวม ความสามารถในทางวิชาการ หรือความสามารถเฉพาะตัวของผู้นั้น และความยากใน การสรรหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสม มาปฏิบัติหน้าที่แทนผู้นั้น
  3. เหตุผลและความจําเป็นที่จําต้องให้ผู้นั้นปฏิบัติภารกิจ ตาม (๑)
  4. ระยะเวลาที่จะให้ผู้นั้นรับราชการต่อไป (๕) ข้อมูลเกี่ยวกับข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้นั้นตามข้อ ๕
  5. แผนการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ให้กับข้าราชการระดับรองลงไป

 

ข้าราชการรัฐสภาสามัญซึ่งมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้วที่จะให้รับราชการต่อไปได้ ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

  1. ดํารงตําแหน่งหรือเคยดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญขึ้นไป หรือ ประเภททั่วไป ระดับอาวุโสขึ้นไป แล้วแต่กรณี ต่อเนื่องกันมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
  2. มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ทักษะ ประสบการณ์ และมีผลงานหรือ ผลการปฏิบัติงานในตําแหน่งดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งนั้นต่อไปได้
  3. ไม่อยู่ในระหว่างการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนในกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิด วินัยอย่างร้ายแรง
  4. ผ่านการตรวจสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ร. กําหนด

 

การให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใดซึ่งดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ หรือระดับทรงคุณวุฒิ หรือดํารงตําแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ ได้รับราชการต่อไปเมื่อสิ้นปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ให้ ก.ร. เป็นผู้พิจารณา

 

ให้ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาดําเนินการภายในเดือนมีนาคมของ ปีงบประมาณที่ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้นั้นจะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และให้ ก.ร. พิจารณา ข้อเสนอของส่วนราชการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนของปีงบประมาณนั้น

 

เมื่อ ก.ร. เห็นชอบให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใดรับราชการต่อไปได้เมื่อสิ้น ปีงบประมาณที่ผู้นั้นมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ให้ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุ มีคําสั่งให้ผู้นั้น รับราชการต่อไป และให้ส่งสําเนาคําสั่งให้กรมบัญชีกลางทราบ เพื่อดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

การสั่งให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญรับราชการต่อไปเป็นครั้งแรกนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ ที่ผู้นั้นมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ให้มีคําสั่งภายในวันที่ 30 นยายน ของปีงบประมาณที่ผู้นั้น มีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์

 

ในกรณีที่ครบกําหนดเวลาที่ให้รับราชการต่อไปแล้ว ถ้าได้รับความเห็นชอบให้รับราชการต่อไปอีก ให้มีคําสั่งก่อนวันครบกําหนดเวลาที่ให้รับราชการต่อไปในครั้งก่อน

 

ข้าราชการรัฐสภาสามัญซึ่งได้รับราชการต่อไปตามกฏ ก.ร. นี้ จะต้องดํารงตําแหน่ง และปฏิบัติหน้าที่เฉพาะตําแหน่งที่ให้รับราชการต่อไปเท่านั้น จะย้าย โอน หรือเลื่อนไปดํารงตําแหน่ง ประเภทบริหาร ประเภทอํานวยการ หรือตําแหน่งอื่น หรือจะรักษาราชการแทน รักษาการในตําแหน่ง รับมอบอํานาจให้ปฏิบัติราชการแทน ไปช่วยราชการ หรือไปช่วยทํางานชั่วคราวในตําแหน่งอื่นไม่ได้

 

ทั้งนี้ไม่ใช้บังคับกับข้าราชการรัฐสภาสามัญซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2565

 

ให้ไว้ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ลงนามโดย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะ ประธาน ก.ร.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชีตําแหน่งที่ ก.ร. กําหนดให้เป็นตําแหน่งที่ได้รับราชการต่อไป ท้ายกฎ ก.ร. ว่าด้วยการให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญซึ่งมีอายุครบหก 60 บริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2565 มีดังนี้ 


ตําแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ จํานวน 1 สายงาน ได้แก่ ตําแหน่งในสายงาน - นิติการ

 

ประกาศกฎใหม่ \"ข้าราชการรัฐสภา\" ทำงานได้อีก10ปี หลังอายุครบเกษียณ ประกาศกฎใหม่ \"ข้าราชการรัฐสภา\" ทำงานได้อีก10ปี หลังอายุครบเกษียณ ประกาศกฎใหม่ \"ข้าราชการรัฐสภา\" ทำงานได้อีก10ปี หลังอายุครบเกษียณ ประกาศกฎใหม่ \"ข้าราชการรัฐสภา\" ทำงานได้อีก10ปี หลังอายุครบเกษียณ

 

ที่มา : ราชกิจจานุเบกษา