หลังเกิดเหตุ “ไฟไหม้สำเพ็ง” เป็นอาคารพาณิชย์ ใกล้เคียงตลาดสำเพ็ง เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำดับเพลิง กว่า 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ พบสาเหตุมาจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดจนลุกลามไป 4 คูหา และทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายนั้น
นายสุชาติ กิตติฤดีกุล เจ้าของตึก เล่าว่า หม้อแปลงนี้เคยระเบิดมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ได้แจ้งการไฟฟ้า (การไฟฟ้านครหลวง) ไปให้มาดู แต่ก็ไม่เห็นทำอะไร จนวันนี้มันระเบิด เป็นปัญหาซ้ำซาก
“ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก คาดการณ์มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ร้านนี้เปิดมา 6 ปี เป็นสาขาที่ 4 มีการทำประกันอัคคีภัยไว้ เบื้องต้นคาดว่าจะฟ้องการไฟฟ้า และจะปรึกษานักกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตึกดังกล่าวคงใช้การไม่ได้อีกต่อไปและต้องทุบทิ้ง” นายสุชาติ ระบุ
ด้าน น.ส.จิตรา อัฐใจ อายุ 34 ปี ลูกจ้างร้านขายถุงพลาสติก ซึ่งหนีตาย ออกจากอาคารได้อย่างหวุดหวิด เล่านาทีชีวิตว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตรวจสอบและซ่อมแซม สายไฟบริเวณดังกล่าว ซึ่งพาดขนานไปกับตัวอาคารบริเวณชั้น 2 ของร้านค้าในละแวกเดียวกันนี้
กระทั่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเดินทางกลับไป ตนและผู้ค้า อีกหลายคนสังเกตเห็นว่า บริเวณสายไฟที่หน้าร้านตนเกิดเสียงดังคล้ายไฟช็อตกัน ทีแรกยังวิจารณ์กันอยู่ว่า เจ้าหน้าที่ไม่พันเก็บสายไฟให้เรียบร้อย หลังจากทำงานเสร็จหรือไม่
“สักพักก็มีของเหลวไหลทะลักออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าร้าน ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ทำให้ต้องรีบวิ่งข้ามถนนหนีตายไปอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นแสงเพลิงก็ลุกลามจากหม้อแปลงไฟฟ้าเข้าสู่ตัวอาคารอย่างรวดเร็ว” ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุ