วันที่ 27 มิ.ย.65 นายกรณ์ จาติกวณิช เปิดเผยว่า ตามที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ วันที่ 12 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นการแถลงข่าวของตนวันแรกว่า ประเทศไทยจะมาถึงจุดที่ค่าการกลั่นพุ่งไปเรื่อยๆ และกองทุนน้ำมันจะสูงทะลุ 1 แสนล้านหากยังไม่มีมาตรการใด ๆ
เดิมทีกฎหมายกำหนดเพดานหนี้ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เปลี่ยนขึ้นมาเป็น 40,000 ล้านบาท และเมื่อต้นปีนี้ยกเลิกเพดาน จึงเป็นที่มาขอหนี้ที่ยังมีเพิ่มขึ้นทุกวันนี้
เมื่อถามว่า สุดท้ายใครจ่าย คำตอบคือ ประชาชนทุกคนที่จะต้องอยู่กับนํ้ามันแพงไปอีกนาน เพื่อชำระหนี้ทุกครั้งที่เราเติมน้ำมันลงถัง สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งที่หนี้กองทุนน้ำมันยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ก็เพราะค่าการกลั่นที่ยังสูงไม่หยุด
“พรรคกล้าติดตามค่าการกลั่นอยู่ทุกวัน จากที่ทุกหน่วยงานของพลังงานออกมาปฏิเสธ ค่าการกลั่น 8 บาทกว่าที่เราเสนอตั้งแต่ต้นเดือน ตัวเลขล่าสุดจากข้อมูลของเว็บไซต์กระทรวงพลังงานเอง ชี้ให้เห็นว่า ค่าการกลั่น ณ วันที่ 25 มิถุนายน ทะลุ 10 บาทต่อลิตรไปแล้ว
ใครที่ยังหาตัวเลขไม่เจอ ทั้งหมดอยู่ในเว็บไซต์ EPPO ของกระทรวงพลังงานเองครับ ลิงค์ : http://www.eppo.go.th/.../petro.../price/structure-oil-price” หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว
นายกรณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาท่านนายกรัฐมนตรีเรียก รมว.พาณิชย์ กับรมว.พลังงานมาหารือ คำถามคือทั้งสองท่าน ตกลงกันได้หรือยังว่าจะแก้ปัญหานํ้ามันแพงอย่างไร และตกลงกันได้หรือยังว่าอำนาจอยู่ที่ใคร
พรรคกล้าชี้เป้าไปสองแนวทาง 1. ควบคุมชั่วคราว ลดค่าการกลั่น 2. ออกกฎหมายเก็บภาษีลาภลอย ซึ่งจากข้อเสนอทั้งหมดของเราที่เสนอมาตลอดทั้งเดือน ตนจะบอกให้ว่า ราคานํ้ามันจะลงทันที และหนี้กองทุนนํ้ามันก็จะลดลงได้ทันที