"หมอระวี"ชี้สูตรไหนชนะ เชื่อฝ่ายแพ้ยื่นตีความ จบที่ศาลรธน.

06 ก.ค. 2565 | 04:05 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ค. 2565 | 12:01 น.

หมอระวี รอผ่านวาระ 3 ย้ำ ‘บิ๊กป้อม’กลับลำหนุนหาร 500 ไม่มีต่อรองพรรคเล็ก ชี้ไม่ว่า สูตรไหนชนะ ก็ต้องจบที่ศาลรธน.เชื่อ 5 วันนาทีทองก่อนนายกนำขึ้นทูลเกล้าฯ ฝ่ายแพ้ยื่นศาลตีความ

วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 เวลา 08.50 น. ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงทิศทางการโหวตวาระ 2 ในร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่..) พ.ศ….ในประเด็นการคำนวณส.ส. บัญชีรายชื่อแบบหาร 100 และหาร 500 ว่า

 

ตนขออธิบายว่าการหาร 100 และหาร 500 นั้นมีความแตกต่างกัน โดยการหาร 100  คือ การคิดเฉพาะส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยเอาคะแนนทั้งประเทศมาหารด้วย 100 จะเป็นคะแนนประมาณ 370,000 คะแนนต่อ 1 ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 

แต่การหาร 500 นั้น จะคิดส.ส.พึงมีบวกกับส.ส.บัญชีรายชื่อ และนำคะแนนพรรคการเมืองทั่วประเทศ มาหารด้วยจำนวนส.ส.ทั้งสภาฯคือ 500 ออกมาเป็นตัวเลขคือ คะแนนเฉลี่ยต่อ 1 ส.ส.พึงมี แต่ยังไม่ใช่ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่งจำเป็นจะต้องคงมาตรา 93 และมาตรา 94 อยู่

 

ที่ผ่านมาพรรคขนาดเล็กและพรรคขนาดกลางร่วมมือกันมาตลอด และคิดว่า มีแนวโน้มที่ดีในการหาร 500 แต่วันนี้ไม่ใช่ตนจะแถลงประกาศชัยชนะ เพราะต้องรอให้ผ่านการโหวตวาระ 3 ไปก่อน เนื่องจากมีเกมการเมือง ที่จะไม่ให้มาตรา 23 เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมรัฐสภาวันนี้ ดังนั้นจึงต้องรอดูว่า วันนี้จะมีเวลาพอหรือจะมีการเตะถ่วงอะไรหรือไม่

 

นพ. ระวี กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ฝ่ายโหวตแพ้อาจจะมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น หลังจากจบวาระ 3 ตามระเบียบสภาฯจะต้องส่งเรื่องให้กับ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ 1.ศาลรัฐธรรมนูญ 2. ศาลฎีกา และ 3.คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งจะใช้เวลา 10 วัน เพื่อตอบว่า เห็นชอบหรือขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่

 

หากมีองค์กรใดชี้ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็ต้องส่งกลับมายังรัฐสภา เพื่อแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่ถ้าไม่ขัด ก็จะส่งให้รัฐสภา เพื่อส่งให้รัฐบาล และนายกฯมีเวลา 5 วันก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้า ซึ่งช่วง 5 วันนี้เป็นช่วงนาทีทองของฝ่ายที่โหวตแพ้ ที่มีสิทธิ์ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้นเชื่อว่า ฝ่ายที่แพ้ไม่ว่า ฝ่ายไหนคงจะมีการเตรียมการรองรับไว้แล้ว

 

นพ.ระวี มาศฉมาดล  ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่
เมื่อถามว่า หากหาร 500 ชนะ มองการเมืองข้างหน้าอย่างไร นพ.ระวี กล่าวว่า หากหาร 500 ชนะการเมืองก็จะพลิกโฉม แต่ถ้าหาร 100 ชนะ กระแสแลนด์สไลด์จะสูงขึ้น และรัฐบาลก็จะอ่อนลง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ

 

แต่หากหาร 500 ชนะ คือ การส่งสัญญาณว่า พรรคร่วมรัฐบาลเอาจริง และพรรคพลังประชารัฐก็จะมีความมั่นคง รวมถึงการแสดงความสามัคคีของ 3 ป. ด้วย  ส่วนพรรคเล็กในอนาคต ก็คงมีไม่มากเหมือนปัจจุบัน ซึ่งอาจจะเหลือ 6-7 พรรค เท่านั้น ไม่ใช่ 30-40 พรรค อย่างที่เขาว่ากัน

เมื่อถามว่า ฝ่ายที่แพ้จะดึงเกมให้เลื่อนการพิจารณา ในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการหาร 100 และหาร 500 นั้น นพ.ระวี กล่าวว่า เมื่อคืนก็มีข่าวมาอย่างนั้น ซึ่งก็ไม่เป็นอะไร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

 

การดึงเกมเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนการแข่งกีฬา ซึ่งเชื่อว่า คงดึงเกมไม่กี่วัน ทางรัฐสภาต้องหาวันประชุมในวันอื่น ซึ่งเป็นการเบรคเกมเสิร์ฟตามปกติ หากประชุมช่วงปลายเดือนก.ค.คงคิดว่า ทันใช้ในการเลือกตั้ง แต่จะมีการลงคะแนนอย่างไรนั้นต้องดูในวันโหวตจริง

 

เมื่อถามถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปลี่ยนใจมาสนับสนุนการหาร 500 นพ.ระวี กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่ใช่การต่อรองของกลุ่มพรรคเล็ก เพราะที่เราเข้าไปพบพล.อ.ประวิตร เพื่อไปอธิบายว่า การหาร 100 ก็ผิดรัฐธรรมนูญเช่นกัน ซึ่งพล.อ.ประวิตรก็ได้เข้าใจถึงจุดนี้

 

สำหรับท่าทีการโหวตของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ตนคิดว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยสนับสนุนการหาร 100 ก็จะเปิดฟรีโหวต เพื่อให้คนที่เคยออกตัวแรงสนับสนุนการหาร 100 ได้ใช้สิทธิ์โหวตอย่างเต็มที่