เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการตลาดนัดสินค้าเกษตร ประจำปี 2565 โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา นายสมยศ พลายด้วง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 พรรคปชป.สงขลา นายนิพัทธ์ อุดมอักษร เลขานุการนายกอบจ.สงขลา คณะผู้บริหาร ที่ปรึกษา หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด อบจ.สงขลา ร่วมในพิธีเปิด ณ ตลาดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (ตลาดโคกไร่) ตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้จัดทำโครงการตลาดนัดสินค้าเกษตร ประจำปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มผู้ผลิต เกษตรกร กลุ่มองค์กรด้านการเกษตรและเครือข่ายการเกษตรในจังหวัดสงขลา กลุ่มผู้ผลิตสินค้าโอทอป และหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ได้มีพื้นที่ในการจัดการแสดงและจำหน่ายสินค้า และบริการด้านการเกษตร
การนำเสนอและให้ความรู้ในด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการเกษตร และให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงประชาชนทั่วไปในจังหวัดสงขลา และผู้ที่สนใจ ได้เลือกซื้อสินค้าการเกษตร สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ
นายนิพนธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการประกอบอาชีพเกษตร ซึ่งมีกว่า 10 ล้านครัวเรือน ครอบคลุมประชากรกว่า 35 ล้านคน และถึงแม้ว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจของสินค้าทางการเกษตรจะน้อยกว่าภาคอุตสาหกรรม แต่ก็ถือเป็นรายได้หลักของพี่น้องประชาชน
“ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการจ่ายส่วนต่างของราคาพืชเกษตร 5 ชนิดได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตามนโยบายประกันรายได้ รวมทั้ง การชดเชยต้นทุนการผลิตภาคการเกษตร การจ่ายเงินเยียวยาให้เกษตรกร การดูแลราคาไม้ผล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 520,000 ล้านบาท”
เป็นการยืนยันได้ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเกษตรกรทุกกลุ่มอย่างแท้จริง และเป็นเงื่อนไขสำคัญของการร่วมรัฐบาลที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งใจที่จะมารับผิดชอบทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ จัดทำนโยบายประกันรายได้ดังกล่าว
สำหรับการจัดงานในวันนี้ต้องขอขอบคุณอบจ.สงขลา ที่ได้เปิดพื้นที่ในการให้เกษตรกรได้นำพืชผลทางการเกษตรมาจำหน่าย รวมทั้งได้เปิดเวทีในการนำนวัตกรรมทางการเกษตรมาเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก
สิ่งนี้จะเป็นการช่วยสร้างความเข้มแข็งและต่อยอดการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้ที่มั่นคงได้อย่างยั่งยืน