เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2565 ที่จังหวัดสตูล นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป. กล่าวว่า ในทางการเมืองใครจะพูดอย่างไรก็พูดได้ แต่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีพรรคการเมืองบางพรรคเปิดตัวประกาศจะกวาดพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด ตนไม่ทราบว่าที่พูดเป็นกลางวัน หรือ กลางคืน ตนยังคิดว่าฝันอยู่
ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยประกาศแลนด์สไลด์ในภาคใต้นั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคการเมืองใช้คำนี้บ่อย จึงอยากส่งสัญญาณเตือนว่า คำนี้ภาษาทางใต้ คือ ดินสไลด์ธรรมดา แต่หากไม่พูดจะหาว่าใจดำเกินไป ขอให้ระวังสึนามิไว้บ้าง
เพราะเมื่อสึนามิมากวาดหมด และสึนามิทางการเมืองเคยเกิดขึ้นทางภาคใต้หลายครั้งแล้ว เช่น ปี2535/1 ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 26 ที่นั่ง จากทั้งหมด 48 ที่นั่ง จากนั้นปี2535/2 ประชาธิปัตย์ได้เพิ่มภาคใต้อีก 10ที่นั่ง เป็น 36 ที่นั่ง และได้จัดตั้ง “รัฐบาลชวน” ต่อมาเมื่อปี 2548 ที่นั่งส.ส.ภาคใต้มี 54 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์กวาดที่นั่งได้เกือบทั้งภาค คือ 52 ที่นั่ง และเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่
ทั้งนี้ ตนในฐานะนักการเมือง อยากส่งสัญญาณว่า ขอให้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงอย่าปรามาสประชาชนในภาคใต้ เพราะคนใต้เคยสั่งสอนบทเรียนให้พรรคการเมืองมาแล้วหลายพรรค ตลอด 30 ปีที่ตนเป็นนักการเมืองเห็นพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นเยอะ แต่ขณะนี้พรรคการเมืองเหล่านั้น หายไปหมดแล้ว จึงขอย้ำเตือนให้ระวังสึนามิทางการเมืองไว้ด้วย
ด้านนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ถึงประเด็นการเตรียมการเลือกตั้งที่ภาคใต้ ที่พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคแลนด์สไลด์ ส.ส.กลุ่มจังหวัด 6 จังหวัด คือ จ.กระบี่ พังงา ระนอง สตูล ตรัง และภูเก็ต ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่พรรคการเมืองหลายพรรค เสนอตัวเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้
การที่นายสฤษฏ์พงษ์ อ้างว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคแลนด์สไลด์ด้วยผลงาน จึงรู้สึกว่าดีเป็นวิถีของมืออาชีพ ที่พรรคการเมืองควรแข่งขันกันที่นโยบายที่จะตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ มากกว่าการใช้โวหารเพื่อสร้างคะแนน
แต่การที่นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่มีผลงาน จึงเหมือนการเล่านิทานหลอกเด็ก เพราะนายสฤษฏ์พงษ์ รู้อยู่เต็มอก เห็นอยู่เต็มตา ได้ยินอยู่เต็มสองหู ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีผลงานที่ทำเพื่อพี่น้องประชาชนรวมถึงคนภาคใต้มาโดยตลอด โดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้ ที่วันนี้ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า แต่เลือกที่จะกล่าวหา บิดเบือน เพียงเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้พรรคตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่น่าตำหนิ และเป็นนิสัยของคนขี้แพ้ที่กลัวตั้งแต่ยังไม่ลงแข่ง
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ย้ำเสมอว่าให้ทำงาน ให้สร้างผลงาน การที่นายสฤษฏ์พงษ์ ออกมากล่าวพาดพิงนาย จุรินทร์ เรื่องการบริหารจัดการของพรรคจึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ผิดมารยาททางการเมือง ถือเป็นเรื่องภายในของพรรค จึงอยากให้นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคได้สั่งสอนมารยาททางการเมืองให้กับลูกพรรคบ้าง
“พรรคยังมั่นใจว่า พรรคยังเป็นความหวัง ให้กับพี่น้องชาวใต้ และมีความมั่นคงในอุดมการณ์มาตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน นายสฤษฏ์พงษ์ ไม่ต้องเป็นห่วงพรรคประชาธิปัตย์และนายจุรินทร์ เพราะนายจุรินทร์ เติบโตมากับพรรค ซึมซับอุดมการณ์ที่มั่นคง ไม่ได้ย้ายพรรคไปเรื่อย ๆ แบบคนไม่มีอุดมการณ์ ที่หวังแต่จะคว้าชัยชนะ
ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะแลนด์สไลด์หรือไม่ ท้ายที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นคนตัดสิน และหากมั่นใจในคะแนนนิยมจริง หวังว่าการลงพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยจะได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างเนืองแน่น และไม่มีการเกณฑ์ อสม.มารอต้อนรับ” นางดรุณวรรณ กล่าว