นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ประกาศเดิมพันครั้งใหญ่ ลั่นวาจาจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิตหากการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ จำนวนส.ส. เข้าสภา ต่ำกว่า 52 คน โดยเขากล่าวปราศรัยใน งาน "รวมพลัง 30 เลือดใหม่ ทวงปักษ์ใต้คืน" ที่จังหวัดสงขลา วานนี้ (14 ส.ค.) ว่า เข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการพรรครอบนี้เป็นครั้งที่ 2 ประชาธิปัตย์เป็นเหมือนบ้านใหญ่หลังหนึ่ง มีประตูเปิดอยู่ตลอดเวลาให้ใครเข้ามาในบ้านนี้ก็ได้ ไม่ว่าจะเดือดเนื้อร้อนใจ จะสุขสบาย จะมีเงิน ไม่มีเงิน บ้านประชาธิปัตย์เปิดประตูรับเสมอ ทางพรรคเป็นเสมือนโรงเรียนการเมืองที่นักการเมืองเกือบทั้งประเทศไทย ถ้าไม่ผ่านบ้านหลังนี้ถือว่าไม่ผ่านหลักสูตร
วันนี้การเมืองมีความเข้มข้น และน่าจะเป็นยุคที่มีพรรคการเมืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ทุกคนมุ่งหวังไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ดังนั้น จะเห็นปรากฎการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นกับนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแจกกล้วย เรื่องไดโว่ดูดตัวนักการเมือง นโยบายขายฝันจะทำได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่จะให้ประชาชนเลือกเขาก่อน ตนในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรคฯ ขอยืนยันกับพี่น้องภาคใต้ได้รับทราบว่า ประชาธิปัตย์ยังยึดมั่นในหลักการ และอุดมการณ์เหมือนเดิม แต่วิธีทำงานต้องเปลี่ยน หมดยุคเสาไฟฟ้าลงก็ได้แล้ว วันนี้คนประชาธิปัตย์ที่จะเป็นตัวแทนประชาธิปัตย์ทุกคนที่จะลงรับสมัครเลือกตั้ง ต้องเดินเข้าหาพี่น้องประชาชน ต้องเอาพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
"ถ้าผู้สมัครของพรรคคนใดก็แล้วแต่ไม่ได้ทำอย่างนี้ คิดว่าขอเพียงได้ลงประชาธิปัตย์ก็ได้ ในวันที่ผมเป็นเลขาธิการพรรคจะไม่มีโอกาสได้เป็นผู้สมัครของพรรคเลย เพราะฉะนั้น วันนี้ผู้สมัครทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ ผมมั่นใจได้ว่าเป็นคนที่พรรคเลือก และเดินเข้าหาพี่น้องประชาชน หลายท่านคงได้ยินข่าวเรื่องเลือดไหล หัวหน้าผมก็บอกแล้วบางทีมันก็ไม่ใช่เลือด บางทีมันก็เป็นหนอง ประชาธิปัตย์เป็นบ้านหลังหนึ่ง แต่วันหนึ่งเมื่อเขาคิดว่าเขาสบายใจ เมื่อเขาคิดว่ามีบ้านอื่นที่ดีกว่า หรูหรากว่า เขาก็เดินออกจากบ้าน ผมถามทุกท่านนิดนึง บ้านนี้ผิดตรงไหน อย่างน้อยที่สุดต้องไปถามคนที่เดินออกไปว่า ครั้งหนึ่งบ้านหลังนี้เคยให้ที่ซุกหัวนอน ได้สำนึกในบุญคุณกันบ้างมั้ย” นายเฉลิมชัยกล่าวในตอนหนึ่งของการปราศรัย และว่า
“ทุกครั้งที่สมาชิกพรรคออกจากพรรค ผมเป็นแม่บ้านพรรค ผมเสียใจมากทุกครั้ง ไม่มีครั้งใดเลยที่ผมดีใจที่สมาชิกออก ถึงแม้บางครั้งสมาชิกในพรรคก็รู้อยู่แล้วก็ไม่มีประโยชน์ ก็ไม่เคยละเลย ยังมีความเสียใจอยู่ตลอด เพราะความผูกพัน การได้เข้ามาอยู่ร่วมกันในพรรคเดียวกัน มันคือความผูกพันมันมากกว่าผลประโยชน์หรือการเมือง วันนี้สิ่งที่ประชาธิปัตย์กำลังจะเดินไปข้างหน้าคือการสร้างความมีเอกภาพภายในพรรค การสร้างจุดยึดโยงยึดเหนี่ยวกับพี่น้องประชาชน การทำผลงานให้พี่น้องประชาชนประจักษ์ และได้รับประโยชน์จากการทำงาน จากนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์กำลังดำเนินการอยู่"
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอีกว่า วันนี้การเมืองกำลังจะก้าวเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง มันก็คือสนามรบกันย่อย ๆ เพียงแต่เป็นการรบเพื่อเอาชนะใจพี่น้องประชาชน ความเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คือแม่บ้าน คือคนที่ต้องรับผิดชอบบ้านหลังนี้ จะผุ จะไม่สะอาด หลังคารั่ว หน้าต่างพัง เลขาธิการพรรคมีหน้าที่ซ่อม ทำให้บ้านหลังนี้สมบูรณ์ที่สุด และเขาเองยังมีความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่า 14 จังหวัดภาคใต้ บวก 1 ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดบ้านของเขา คือบ้านของประชาธิปัตย์ 58 คน ใน 14 จังหวัดภาคใต้ 3 คนในจังหวัดประจวบฯ รวมทั้งหมด 61 เขต 61 คน ดังนั้น ขอกราบฝากไปถึงพี่น้องภาคใต้ทุกกลุ่ม 61 เขต ตัวเขา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะเลขาธิการพรรค ขอประกาศสู้ทุกเขต
"ผมไม่บอกว่าจะได้กี่เขต แต่วันที่พรรคมีวิกฤต ผมประกาศไว้ชัดเจนแล้ว รอบนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 52 ที่ ผมเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต เลิกเล่นนะ ไม่ใช่หยุดเล่น เลิกคือหันหลังเดินออกไปเลย แต่ผมยังมั่นใจว่านี่คือสถาบันการเมือง ในท่ามกลางวิกฤต ทุกอย่างวุ่นวาย พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนเป็นหลักให้ประเทศได้ เพราะฉะนั้นจำนวน ส.ส.อาจจะมีผล แต่ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนวันนี้ตัดสินใจได้ว่าจะเลือกพรรคไหน และให้ผู้สมัครของผมทั้งหมด และให้พี่น้องชาวปักษ์ใต้ทั้งหมดได้สบายใจว่า วันนี้ที่ผมบอกคือหลักการ อุดมการณ์ ไม่เปลี่ยน แต่วิธีการ กับการทำงาน ประชาธิปัตย์เปลี่ยนแน่นอน เปลี่ยนเพื่อพี่น้องประชาชน" นายเฉลิมชัย กล่าว
"ถ้าผมประกาศว่าสู้แล้ว คู่ต่อสู้ขี้แตกแน่นอน แล้วจะสู้ตั้งแต่เกียร์แรกจนเกียร์สุดท้าย ตั้งแต่วันนี้ยันวันลงบัตรคะแนน ขอให้ทุกท่านพี่น้องทุกคนให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ กำลังใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าพวกเรามีกำลังใจ ทุกคนพร้อมจะสู้ จะเดินไปพร้อมๆ กับทุกท่าน เกือบ 4 ปีที่ผ่านมา เราได้ทำให้กับพี่น้องประชาชน เราทำเงินเข้ากระเป๋าพี่น้องประชาชนมาตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี แต่เรามีมารยาทพอที่จะไม่เอาผลงานนั้นมาหาเสียงในระหว่างเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อย่างน้อยที่สุดประชาธิปัตย์ก็ยังมีคุณสมบัติผู้ดีอยู่บ้าง ไม่ถึงขนาดอะไรก็คือผลประโยชน์ทั้งหมด"
นายเฉลิมชัย ยังขอโอกาสจากพี่น้องชาวใต้ทั้งหมดว่า เลือกตั้งรอบนี้ขอจังหวัดสงขลายกจังหวัด และได้รับเสียงขานรับ เสียงตบมือจากสมาชิกประชาธิปัตย์ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานนับหมื่น ซึ่งเสมือนเป็นดั่งคำมั่นสัญญาว่าการเลือกตั้งรอบนี้ชาวสงขลาจะเลือกประชาธิปัตย์ยกจังหวัด