วันที่ 19 ส.ค.2565 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ในกรณีที่มีข่าวนำเสนอเรื่องคดีแชร์ลูกโซ่ forex-3d ศาลไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาที่เป็นดาราดังหลายคน เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และ ความเสียหายหลายพันล้านบาทโดยนายสามารถ กล่าวว่า
ผมเองได้ลงไปดูคดีนี้ตั้งแต่ปี 2562 จนปัจจุบันคดีนี้ถึงอัยการ ส่งสำนวนให้ศาลพิจารณาแล้ว และ อัยการได้มีความเห็นให้แจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาเพิ่ม เรื่องนี้ผมขอเตือนผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้รีบยื่นคำร้องต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ให้แสดงตนเป็นผู้เสียหาย เพื่อที่จะได้มีชื่ออยู่ในสำนวนถึงจะได้รับการชดใช้ คดีแชร์ลูกโซ่นี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา รัฐจะเป็นผู้ฟ้องให้ และ เรียกดอกเบี้ยให้ด้วย
เพราะถ้าท่านผู้เสียหายไม่ออกมาร้องทุกข์ ไม่มีชื่ออยู่ในสำนวน ท่านจะไม่ได้รับเงินคืนจากทรัพย์สินที่ยึดมาได้ เพราะศาลไม่สามารถสั่งให้คืนนอกสำนวนได้
ดังนั้นขอให้รีบไปยื่นร้องทุกข์ต่อท่านอัยการสูงสุด เพื่อให้มีรายชื่อเป็นผู้เสียหายอยู่ในสำนวนที่ฟ้องต่อศาล ก็จะได้รับเงินคืนตามสัดส่วนที่ยึดและอายัดมาได้
ท้ายสุดนี้ผมมั่นใจว่า ฟ้องตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา 4 แน่นอน ผมขออนุญาตหยิบยก คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8870/2553
พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ผู้ใดโฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชน หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ปรากฏแก่บุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปว่าในการกู้ยืมเงิน ตนหรือบุคคลใดจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ตามพฤติการณ์แห่งการกู้ยืมเงิน
ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้โดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นไม่สามารถประกอบกิจการใด ๆ โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนพอเพียงที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้นได้
และในการนั้นเป็นเหตุให้ตนหรือบุคคลใดได้กู้ยืมเงินไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” การโฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนหรือการกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ปรากฏแก่บุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไป อันจะทำให้เป็นความผิดสำเร็จฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ไม่จำเป็นที่จำเลยทั้งสองจะต้องกระทำการดังกล่าวต่อผู้เสียหายแต่ละคนด้วยตนเองทุกครั้งเป็นคราว ๆ ไป เพียงแต่จำเลยทั้งสองแสดงข้อความดังกล่าวให้ปรากฏแก่ผู้เสียหายแม้เพียงบางคน แล้วเป็นผลให้ประชาชนหลงเชื่อนำเงินมาให้จำเลยทั้งสองกู้ยืม ก็ถือว่าเป็นการกระทำความผิดแล้ว
ข้อสำคัญที่ทำให้ความผิดสำเร็จอยู่ที่ในการนั้นเป็นเหตุให้ตนหรือบุคคลใดได้เงินกู้ยืมไปจากผู้ถูกหลอกลวง ทั้งการกระทำดังกล่าวโดยสภาพเป็นการกระทำต่อบุคคลหลายคนจึงอาจกระทำต่อบุคคลเหล่านั้นต่างวาระกันได้ การกระทำที่จะเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมย่อมขึ้นอยู่กับลักษณะของการกระทำที่มีเจตนามุ่งกระทำเพื่อให้เกิดผลต่อบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปหรือประชาชนเพียงครั้งเดียวหรือหลายครั้ง มิได้พิจารณาจากองค์ประกอบความผิดที่ต้องกระทำต่อบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปเพียงอย่างเดียวเป็นเครื่องชี้เจตนาของผู้กระทำเมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยทั้งสองกู้ยืมเงินจากโจทก์ร่วมทั้งสิบเจ็ด ผู้เสียหายที่ 11 และที่ 14 คนละวันเวลาและในสถานที่แตกต่างกัน โดยเจตนาให้เกิดผลต่อโจทก์ร่วมและผู้เสียหายแยกต่างหากจากกัน ดังนั้น การกระทำของจำเลยทั้งสองแต่ละครั้งถือว่าเป็นความผิดสำเร็จสำหรับโจทก์ร่วมและผู้เสียหายแต่ละคนแล้ว จึงเป็นความผิดหลายกรรมตามจำนวนโจทก์ร่วมและผู้เสียหายที่จำเลยทั้งสองร่วมกันหลอกลวง
ดังนั้นคดีนี้ไม่พลิกแน่นอนยิ่งมี มาตรา4(1)(2) เรื่องนี้ระบุชัดพูดถึงการกระทำค้าขายforexถ้าไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความผิด ตามมาตรา 4 และ การประกาศชักชวนก็เป็นความผิด ตามมาตรา5 ดังนั้นคนชักชวน คนบรรยาย ก็มีความผิดตามกฎหมายนี้
ดังนั้นตามกฏหมายรอดอยาก ใครเป็นผู้เสียหายที่ยังตกหล่นรีบรวบรวมเอกสารแล้วขับรถไปร้องทุกข์ต่ออัยการสูงสุดให้เร็วที่สุด รถไฟออกแล้วจะตกขบวน จะหาว่าไม่บอกกัน
เสียงด่วนขบวนสุดท้าย เพราะคดีแบบนี้ เค้ามองเป็นคดีบุฟเฟ่ต์ พิจารณาทีเดียว พอตกขบวนแล้วยาก ที่รัฐจะกลับมาทำให้ใหม่...
ตกเป็นเหยื่อแล้ว วันนี้ต้องหัดกลับมาเป็นผู้ล่าบ้าง
ผมขอให้ผู้เสียหายทุกคนก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน ถึงแม้ระยะทางมันจะไกล แต่เราก็ต้องเดินทางไปให้ถึง
ผมมั่นใจว่า ผมจะขอเป็นตัวแทนผู้เสียหายทุกคนไปตัดถนนแห่งความยุติธรรมนี้ให้รวดเร็วและสะดวกมากขึ้น