วันที่ 31 ส.ค. 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี ครม.มอบหมายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แยกสถานะลูกหนี้ เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ ด้วยการจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินทั่วประเทศว่า การแก้ปัญหาหนี้ ไม่ใช่แค่อีเวนต์จัดมหกรรม แต่ต้องมีมาตรการที่ชัดเจนและใช้ได้ทันที
ซึ่งตนเองได้เสนอมาตรการพักชำระเงินต้น 2 ปี , ลดดอกเบี้ยให้เหลือ 1% หนึ่งปี , แขวนดอกเบี้ยค่าปรับไว้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลังจะหยิบนำไปพิจารณาหรือไม่
"อย่าลืมว่าหนี้ 13 ล้านบัญชี เกิดจากนโยบายรัฐ ที่ประชาชนต้องกู้ช่วงโควิดระบาด รัฐจะทอดทิ้งไม่ได้ บัญชีเหล่านี้ตกเหวเป็นหนี้เสียไปแล้ว 3 ล้านบัญชี และกำลังจะเป็นหนี้เสียอีก 10 ล้านบัญชี ถ้ารัฐยังไม่มีมาตรการชัดเจน
ทุกวันที่ผ่านไปจะมีคนติดเครดิตบูโรเพิ่มขึ้นอีก วันละ 1 หมื่นคน ก็หวังว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล จะออกมาตรการโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้เรื่องใหญ่ ท่านรองนายกฯ บอกว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย พรรคกล้าเราพร้อมช่วยคิดช่วยทำ ขอให้บอกมา" นายกรณ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคกล้า ยังกล่าวเตือนถึงค่าไฟ เตรียมพุ่งสูงขึ้นเดือนกันยายนนี้ เพราะค่า FT เพิ่มขึ้นสูงถึง 93.43 สตางค์/หน่วย แต่มาตรการที่รัฐประกาศออกมา ให้ส่วนลดเฉพาะบ้านที่ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน ไม่ได้ช่วยชนชั้นกลางที่เดือดร้อนเลย
เพราะแค่บ้านที่เปิดแอร์ ก็ใช้ไฟเกินแล้ว การประชุม ครม. ก็ยังไม่พิจารณามาตรการใดๆ จึงต้องเตือนประชาชน บ้านไหนใช้ไฟมากกว่า 500 หน่วย เตรียมรับค่า FT แบบเต็มๆ