วันที่ 3 สิงหาคม 2565 ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองของพรรคชาติพัฒนา ภายหลังการเปิดตัว นายกรณ์ จาติกวณิ หัวหน้าพรรคกล้า เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคว่า วันนี้พรรคชาติพัฒนายังอยู่ปกติ และจะมีผู้มาร่วมงานกับพรรคมากขึ้นต่อไป
“คงจะต้องมีกลไกอะไรหลายๆ อย่างในเรื่องของการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพรรค หรือตําแหน่งต่างๆ ที่ว่างเว้นอยู่ เช่นตอนนี้ที่จําเป็นเร่งด่วนก็คือ ประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากพลเอกฐิติวัฒน์ กําลังเอก ลาออกไป แล้วก็มีรองหัวหน้าพรรคกับกรรมการบริหารประมาณอีก 7 คนที่ลาออกไป
อย่างเช่น นายกเทศมนตรีฯ ประเสริฐ บุญชัยสุข เดิมเป็นรองหัวหน้าพรรคแล้ว ก็ลาออกมาสมัครการเมืองท้องถิ่น ฉะนั้น ตําแหน่งในพรรคก็ว่างหลายตําแหน่ง และตําแหน่งที่สําคัญก็คือ ประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ฉะนั้น เป็นเรื่องที่พรรคชาติพัฒนาเองก็ต้องจัดสรร แล้วก็เติมตําแหน่งที่ว่างให้เต็ม”
ดังนั้น จะเป็นเรื่องของการปรับโครงสร้างพรรค ปรับปรุงภาพลักษณ์ของพรรค และการประชาสัมพันธ์ต่างๆ เหมือนกับเป็นการ Re-Brand เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น รวมทั้งในเรื่องของนโยบายต่างๆ จากนี้ไปก็จะมีความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ ของพรรคชาติพัฒนา เพื่อนําไปสู่สนามเลือกตั้ง ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายต่ำแหน่งดังกล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวด้วยว่า นายกรณ์ได้บอกกับตนว่า อาทิตย์หน้านี้ จะมีผู้ร่วมงานในเรื่องของเศรษฐกิจ หรือ เป็นทีมเศรษฐกิจ ก็จะพามาหลายคน เพื่อมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนา ก็ถือว่าเมื่อเปิดตัวแล้วก็ลงมือทํางานเลย เพราะตั้งใจให้มาดูแลเรื่องเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน
ฉะนั้น อาทิตย์หน้านายกรณ์ ก็เลยบอกตนว่าจะมีทีมงาน จะมีผู้ที่เก่งเรื่องเศรษฐกิจ มาร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนา มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ก็ถือว่า พรรคชาติพัฒนาได้ผู้ร่วมงานที่ดีจะทําให้พรรคชาติพัฒนาเข้มแข็งขึ้น และสามารถเป็นที่หวังของพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าตําแหน่งของหัวหน้าพรรค กับชื่อพรรคชาติพัฒนา จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตอนนี้ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ ภายในเดือนนี้ก็จะมีการประชุมใหญ่ เพื่อดําเนินการในส่วนที่ได้เรียนไปแล้วก็คือ มีการเลือกประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และแต่งตั้งตําแหน่งในพรรคต่างๆ ที่ว่างลง และอาทิตย์หน้าก็จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหาร เพื่อที่จะกําหนดวันประชุมใหญ่ ซึ่งการประชุมใหญ่นั้นก็จะมีสาระที่สําคัญอยู่สองเรื่องก็คือ 1.เรื่องแต่งตั้งตําแหน่งต่างๆ ที่ว่าง 2.เรื่องประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ค่อยๆ เป็นไปตามปฏิทินทางการเมือง
“ท่านกรณ์ ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เก่งเรื่องเศรษฐกิจ แล้วเราก็มีความเชื่อมั่นว่า เมื่อท่านมาร่วมพรรคชาติพัฒนาแล้ว ท่านสามารถที่จะมีบทบาทที่สําคัญ ในการเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนตําแหน่งอะไรที่เหมาะสมนั้น ก็เป็นเรื่องของสมาชิกพรรค ที่จะได้พิจารณากันต่อไป”
อย่างไรก็ตาม นายกรณ์ มีศักยภาพที่จะทํางาน เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ฉะนั้น ก็ต้องมีสถานภาพ มีตําแหน่งที่เหมาะสมที่เป็นการรองรับท่าน เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ในพรรคชาติพัฒนาให้สําเร็จลุล่วง โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ส่วนจะเป็นตําแหน่งอะไรนั้น ก็เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการต่อไปในพรรค ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกพรรค ที่จะต้องตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะต้องดำเนินการโดยมติที่ประชุมใหญ่
นายสุวัจน์ กล่าวด้วยว่า เมื่อนายกรณ์ มาร่วมงานแล้ววันนี้ พรรคชาติหน้าก็จะแข็งแกร่งขึ้น คําว่า come back ก็จะชัดเจนขึ้น
“มองย้อนอดีตผมจําได้วันที่ท่านชาติชาย ตั้งพรรค 30 ปีแล้ว ตอนนั้นก็เตรียมตัวกัน 60 วันก็ได้มา 60 คน แล้วก็วันนั้นพรรคชาติพัฒนา ถือว่าเป็นพรรคใหญ่ได้ทําประโยชน์ให้ประเทศแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แล้วพื้นฐานทางการเมืองต่างๆ ท่านชาติชายก็บอกพวกเราอยู่เสมอว่าทําการเมือง ต้องไม่ขัดแย้ง ประนีประนอมเข้าได้กับทุกฝ่ายเป็นพื้นฐานที่สําคัญ และก็ต้องเน้นเรื่องเศรษฐกิจ”
ฉะนั้น คิดว่าด้วยความพร้อมของนายกรณ์ ที่มาร่วมงาน เรื่องเศรษฐกิจก็จะแข็งแกร่งขึ้น ประสบการณ์ทางการเมืองที่พรรคชาติพัฒนาสะสมเอาไว้โดยเฉพาะการทํางานทางการเมืองที่ไม่ขัดแย้ง ซึ่งคิดว่าเป็นทางออกอย่างหนึ่งให้กับประเทศได้ จะทําให้พรรคชาติพัฒนามีความพร้อม แต่ว่าจะได้กี่คน ผมไม่ทราบ แต่ผมมั่นใจว่าพรรคชาติพัฒนาจะต้องกลับมาอยากให้กลับมาเหมือนเดิม”