การเมืองยุคท้ายสมัยที่อย่างช้าสุดสภาผู้แทนราษฎร จะครบวาระในเดือนมี.ค.2566 ซึ่งต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งภายในไม่นานจากนี้ พรรคการเมืองต่าง ๆ ทั้งเล็กใหญ่ จึงเคลื่อนไหวลงพื้นที่และจัดวางตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคในแต่ละเขตกันคึกคักแล้ว
สนามเลือกตั้งจังหวัดตรัง เป็นเมืองหลวงการเมืองของประชาธิปัตย์มายาวนาน โดยครั้งที่ผ่านมาโดนพรรคพลังประชารัฐ แบ่งไปได้ 1 เก้าอี้ในเขต 1 คงได้ส.ส.ใน 2 เขตเลือกตั้งที่เหลือ และในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะกลับมาเป็น 4 เขต เลือกส.ส.ได้ 4 คนตามเดิม
แต่ก่อนเปิดสนามแข่งขันอย่างเป็นทางการ แผงการเมืองปชป.ที่ตรังกับเกิดรอยร้าว เมื่อการคัดว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขต 4 ไม่ลงตัว เมื่อนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตส.ส.4 สมัย ยังแสดงความจำนงขอลงสู้ศึกในครั้งนี้ จากที่ผ่านมาได้เสียสละเมื่อเขตเลือกตั้งถูกยุบเหลือ 3 เขต โดยไปอยู่บัญชีรายชื่อพรรคแล้วพลาดการเป็นส.ส.ไป ขณะที่"สมชาย-สุณัฐชา" พ่อลูก"โล่สถาพรพิพิธ" ตระกูลการเมืองใหญ่ของตรัง หนุนหน้าใหม่"กาญจน์ ตั้งปอง" สท.เมืองกันตัง ลงสนามแทน
กลายเป็นศึก"วัดกำลัง"กันภายใน ระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า-ใหม่ในประชาธิปัตย์ โดยนายสมบูรณ์เมื่อไม่ได้เป็นส.ส. ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ของ"นายชวน หลีกภัย" นักการเมืองในตำนานแห่งเมืองตรัง ทำให้นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ตัดสินใจใช้การสำรวจโพลเพื่อคัดตัวผู้สมัครส.ส. ซึ่งผลโพลปรากฎว่านายกาญจน์ชนะ แต่นายสมบูรณ์ร้องค้านว่าการสำรวจมีพิรุธ
ทำให้ ณ เวลานี้ การวางตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดตรัง ของประชาธิปัตย์ ลงตัวแล้ว 3 เขต คือ เขต 1 นายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น เขต 2 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส่วนเขต 4 ต้องรอกรรมการบริหารพรรคชี้ขาด
นอกจากประชาธิปัตย์แชมป์เก่าที่เริ่มเปิดตัวผู้สมัคร พรรคการเมืองอื่นที่เห็นโอกาสเจาะพื้นที่ภาคใต้ ทุ่มเทกำลังลงมาจัดทีมส่งลงสนามแข่งขันกันคึกคัก ยิ่งเป็นปชป.ไม่ลงตัวในหลายเขตเลือกตั้ง โอกาสของคู่แข่งยิ่งกว้างขึ้น โดยในสนามเมืองตรัง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)วางตัวครบทั้ง 4 เขตแล้ว คือ เขต 1 นายกิตติพงษ์ ผลประยูร (ลงแทนนายนิพันธ์ ศิริธร อดีตส.ส.ที่ผันตัวเองไปลงส.ส.บัญชีรายชื่อ) เขต 2 นายทวี สุระบาล เขต 3 พ.ต.ท.นัธพงษ์ ใจสมุทร เขต 4 พล.ต.ต.บันลือ ชูเวทย์ อดีตผู้การ สตช. และไม่นานมานี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาตรวจราชการพื้นที่จ.ตรัง หลังเวลาราชการจัดเวทีเปิดตัวผู้สมัครของพรรคไปแล้ว
โดยการเลือกตั้งที่ปี 2562 ให้บทเรียนการเมืองราคาแพงแก่สมาชิกปชป.จังหวัดตรัง เมื่อนายนิพันธิ์ ศิริธร อดีตรองผู้ว่าฯตรัง เป็นผู้สมัครส.ส.หน้าใหม่ลงสนามครั้งแรก กับพรรคตั้งใหม่คือพลังประชารัฐ ก็สามารถคว้าเก้าอี้ส.ส.ได้ทันที ทั้งที่ตรังเป็นเมืองหลวงการเมืองของประชาธิปัตย์ ภายใต้บารมีนายชวน หลีกภัย
มาถึงพรรคภูมิใจไทย ดร.นาที รัชกิจประการ แม่ทัพใหญ่พื้นที่ภาคใต้ของพรรค ประกาศในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะกวาดส.ส.ภาคใต้ 20 เก้าอี้ให้ได้ จากปัจจุบันภูมิใจไทยมีส.ส.ภาคใต้จำนวน 8 คน โดยสนามเลือกตั้ง จังหวัดตรัง เมืองพระยารัษฎาฯ เบื้องต้นชัดเจนประกาศส่งเขต 1 และเขต 4 ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 เป็นอีกเป้าหมายที่จะส่งผู้สมัครเช่นกัน
นายดิษฐ์ธนิน (เอก) ภาคย์อิชณน์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ตรัง เปิดเผยกับ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ"ว่า พรรคภูมิใจไทยตอนนี้เคลื่อนในจ.ตรังที่ชัดเจนมีเพียงเขต 4 ของตนเองเขตเดียว โดยจะไปประชุมพรรคที่กรุงเทพฯเดือนละครั้ง เพื่อรับฟังนโยบายพรรค ส่วนเขต 1-3 ขณะนี้อยู่ระหว่างทาบทาม โดยเวลานี้กระแสภูมิใจไทยเป็นบวกทั้งประเทศ ทั้งนโยบายที่ทำได้จริง เช่น ปลดล็อกกัญชา ทั้งความคาดหวังว่านายอนุทิน ชาญวีระกุล มีโอกาสเป็นนายกฯ จากการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ทำให้มีผู้เสนอตัวเข้าทำงานกับพรรคมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นกำนันบอย ที่กาญจนบุรี ที่พัทลุงได้อดีต ส.ส.มา ส่วน จ.สงขลา เขต 3 ได้นายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ มาเป็นผู้สมัคร จ.ภูเก็ต เขต 3 มีนายเฉลิมรัฐ เก็บทรัพย์
"เราพูดแล้วทำจริง นโยบายของพรรคปลดล็อกกัญชาก็ประสบความสำเร็จ ใกล้จะออกเป็นกฎหมายแล้ว ทำให้คนเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น ส่วนนโยบายในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเบื้องต้นมี 3-4 นโยบาย คือ 1.ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน ต้นแบบจากญี่ปุ่น โดยให้ 30 %ของภาษีที่จ่ายกำหนดได้ว่าจะให้อปท.ไหน"
นายดิษฐ์ธนิน กล่าวว่า นโยบายนี้จะสร้างแรงจูงใจให้ประชาชน ภาคใต้มีทะเลขนาบ2ฝั่ง มีรายได้ท่องเที่ยวมหาศาลแต่ละปี แต่ภาษีท่องเที่ยวทั้งหมดเก็บเข้าส่วนกลาง แล้วค่อยแจกจ่ายไปทั่วประเทศ ทำให้ภาคใต้เสียเปรียบ เพราะพื้นที่เล็ก คนน้อยกว่า ส.ส.น้อยกว่า ภาคอื่นที่มีคนมากกว่า ส.ส.มากกว่า มีโอกาสของบไปลงพื้นที่ได้มากกว่า ทำให้ภาคใต้เสียโอกาส
นโยบายที่ 2 คือ พักหนี้ ปลอดดอก 3 ปี สำหรับยอดหนี้รวมไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคน แต่ต้องเป็นหนี้ในระบบ จากที่ผู้ใหญ่ของพรรคมองว่า ไทยเจอวิกฤตโควิดมา 3 ปีที่เศรษฐกิจหยุดชะงัก ส่วนอีก 2 นโยบายนั้น จะขึ้นไปรับจากที่ประชุมพรรคในเดือนก.ย.นี้
พรรคเรากำลังเดินสู่การเป็นพรรคที่ขายนโยบาย การเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคสีส้มหาเสียงแบบไม่มีรูปผู้สมัคร มีแต่หมายเลขและนโยบาย ทั้งจังหวัดยังทำคะแนนได้ถึง 30,000 กว่าคะแนน แสดงว่าคนตรังอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เขาอยากได้นโยบาย และพรรคภูมิใจจะเป็นพรรคที่ไปถึงจุดนั้น
นายดิษฐ์ธนิน กล่าวอีกว่า พรรคมั่งทำเรื่องที่จับต้องได้ก่อน จากการลงพื้นที่ชาวบ้านมีปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ซึ่งมหาดไทยมอบผู้ว่าฯตั้งคณะกรรมการฯมาพิจารณาดูแล ประชุมแก้เป็นราย ๆ ครั้งละไม่กี่แปลง จึงเสนอไปว่าให้ ถ้าสามารถมอบให้ท้องถิ่นเข้าร่วมช่วยดูแล ตั้งเป็นกรรมการร่วมพิจารณา จะแก้ได้เร็วและตรงจุดยิ่งขึ้น เป็นนโยบายส่วนตัวจากปัญหาพื้นที่ ที่ส่งให้พรรคพิจารณาตามที่พรรคเปิดรับ
นอกจากนี้จะผลักดันประกาศพื้นที่แนวชายหาดตรัง 119 กิโลเมตร เป็นพื้นที่เขตพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยู่ระหว่างประเมิน เมื่อผ่านความเห็นชอบจะมีงบมาวิจัย หากผ่านเกณฑ์ทั้งหมดจะได้รับการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป
ส่วนคู่แข่งจากพรรคปชป.ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่อยู่ระหว่างการคัดตัวใครน่ากลัวกว่ากันนั้น นายดิษฐ์ธนิน กล่าวว่า สำหรับตนจะแข่งกับตัวเอง ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเป็นคนเลือกชี้อนาคตทางการเมืองของผม ดังนั้น ต้องฟังเสียงประชาชน เพราะต้องอยู่กับประชาชน คู่แข่งจะเป็นใครก็ได้ "ผมพร้อมสู้และพิสูจน์ตัวเอง" นายดิษฐ์ธนิน กล่าวปิดท้าย
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยพยายามทาบทามนายแพทย์รักษ์ บุญเจริญ หรือ"หมอชาวบ้าน" มาระยะหนึ่งแล้ว ล่าสุดนายแพทย์รักษ์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ"ว่า มีความเชื่อมั่นในพรรคภูมิใจไทย ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านได้ตรงจุด และพัฒนาบ้านเมืองไปในทิศทางที่ดีได้ อีกทั้งภูมิใจไทยมีแกนนำในพื้นที่ภาคใต้ คือ นายพิพัฒน์ และ ดร.นาที รัชกิจประการ เป็นผู้ใหญ่ของพรรคที่น่าเคารพนับถือ มีความแข็งแกร่งในทุกมิติ ดังนั้น ตนเองมีความประสงค์ที่จะลงสมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย
นายแพทย์รักษ์ จบแพทย์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ไปเรียนเฉพาะทางจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับราชการที่โรงพยาบาลตรังจนหมดทุน ก็ลาออกจากราชการมาเปิดคลินิก”หมอรักษ์“ ขนาด 1 คูหา รับตรวจรักษาคนไข้โดยคิดค่าใช้จ่ายครั้งละ 100-180 บาท เป็นหมอ"ขวัญใจชาวบ้าน"และผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง โดยภริยาก็เป็นแพทย์หญิง รับราชการที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง
เส้นทางการเมือง นายแพทย์รักษ์ เคยเป็นรองนายกเทศมนตรีนครตรัง ชุดนายอภิชิต วิโนทัย เป็นนายกเทศมนตรี จนต่อมาถูกคสช.สั่งพักการปฎิบัติหน้าที่ มีนายเกรียงศักดิ์ รัตนสิมานนท์ รองนายกฯคนที่ 1 ขึ้นรักษาฯแทน ก่อนจะลาออกไป นายแพทย์รักษ์ จึงขึ้นเป็นรักษาการนายกเทศมนตรีต่ออีกประมาณ 1 ปี เมื่อครอบครัวสนับสนุน นายแพทย์รักษ์จึงสวมเสื้อภูมิใจไทย ลงชิงเก้าอี้ส.ส.ตรัง เขต 1 ครั้งนี้
สนามเลือกตั้งเมืองตรังที่ทะยอยเปิดตัวพรรคเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ลงชิงชัยเก้าอี้ส.ส.ในการเลือกตั้งที่งวดเข้ามาเป็นลำดับ ส่วนใครจะได้นั่งเก้าอี้ส.ส. ธงของพรรคไหนจะได้โบกสะบัดในเมืองพระยารัษฎาฯแห่งนี้ มีชาวจังหวัดตรังแต่ละเขตเลือกตั้งจะเป็นผู้ตัดสิน ที่ต้องคอยติดตามกันต่อไป
ธีมดี ภาคย์ธนชิต/รายงาน