วันที่ 18 กันยายน 2565 ที่โรงแรมหรรษา เจบี หาดใหญ่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัต์ย์ พร้อมด้วย ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าทีมการศึกษาทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เดินสายพบว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสรร เพชญ บุญญามณี และ เขตเลือกตั้งที่ 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร ท่ามกลางการต้อนรับของ ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 2 เขต และ กรรมการสาขาพรรค กลุ่มพลังมวลชน และรับฟังการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "การศึกษาทันสมัย"
ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า วันนี้โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จังหวัดสงขลาซึ่งถือเป็นจังหวัดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 1 ล้านคน จึงต้องมีการมุ่งมั่นในการพัฒนาสร้างคนรุ่นใหม่ เพื่อที่จะสืบทอดรุ่นต่อรุ่น ที่มีความทันสมัย และสามารถที่จะแข่งขันกับประเทศในภูมิภาคได้
พรรคปชป.จึงให้ความสำคัญในเรื่องของการศึกษาซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่มีอะไรที่จะดีกว่าการให้การศึกษาแก่ลูกหลานทุกคน โดยพรรคจะส่งเสริมให้ลูกหลานทุกคนได้เข้าถึงการศึกษา เพราะความรู้ ความสามารถจะแก้ปัญหาในเรื่องปากท้อง
นโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ถือเป็นคอนเซ็ปของพรรค ปชป. ในการสร้างคน และต้องสร้างคนรุ่นใหม่ของประเทศไทยให้รู้ทันเทคโนโลยี
ในส่วนนโยบายที่ว่าอุดมการณ์ทันสมัย นั่นคือ เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน ถ้าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดีพรรคจะนึกถึงพี่น้องประชาชนเสมอ และวันนี้พรรคเราจะดูแลลูกหลานให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ
วันนี้สงขลาจึงต้องสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมา แต่อุดมการณ์เดิม และจะเป็นความทันสมัยในการรับใช้พี่น้องประชาชน เป็นความทันสมัยในบ้านนี้เมืองนี้ สู้กับต่างประเทศ ซึ่งพรรคปชป.เป็นพรรคที่ให้ความสนใจในการพัฒนาคนมาโดยตลอด และวันนี้เราจะทำให้สงขลาเป็นเมืองต้นแบบของการศึกษาทันสมัยของประชาธิปัตย์
ดังนั้น คำว่าทันสมัยนั้นประกอบไปด้วย แนวคิดที่ทันสมัยในการที่จะเปลี่ยนเมืองสงขลา การทำตัวให้ทันสมัย ในเรื่องของการบริหารจัดการ ที่ทันสมัย และประการสุดท้าย คือ การรู้จักใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้กับพี่น้องประชาชน และถ้าประชาธิปัตย์เข้ามาดูแลเรื่องการศึกษา สงขลาจะเป็นจังหวัดต้นแบบในการพัฒนาลูกหลานของเรา
ด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวถึงความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดสงขลา มีความพร้อมแล้วถึง 90% เหลือบางพื้นที่เท่านั้นที่ต้องหาคนที่ดีที่สุด เพื่อมาลงแข่งขัน ลงสมัครเลือกตั้งรับใช้พี่น้องประชาชน
ในเรื่องของการทำนโยบาย การเตรียมการในการสรรหาตัวผู้สมัคร การเตรียม การประชาสัมพันธ์ สิ่งเหล่านี้ได้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องแล้ว ซึ่งล่าสุดหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการ โดยท่านเลขาธิการพรรค เป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยเปิดตัวผู้สมัครไปบ้างแล้วในบางจังหวัด
พรรคประชาธิปัตย์มีความเชื่อว่า ในพื้นที่ภาคใต้นี้เรามีความพร้อม ทั้งนโยบาย บุคคล ทีมงานในการสร้างแกนนำของพรรคในเขตเลือกตั้งแต่ละพื้นที่ วันนี้จำนวนส.ส.เพิ่มเป็น 58 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ คาดหวังว่าขั้นต่ำจะได้ประมาณ 35-40 ที่นั่ง
“ในอดีตถือว่าเคยแข่งขันกับพรรคใหม่ๆ เป็นประจำ วันนี้จึงถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง วันนี้กว่า 76 ปีของพรรคปชป. เราผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอสมควร และเห็นอะไรทางการเมืองมาก็มาก และพรรคใหม่ที่แข่งกับเราทางการเมืองก็หายไปทุกครั้ง ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พรรคปชป.มั่นใจว่า ประชาธิปัตย์จะกลับมาในภาคใต้อีกครั้ง”
นายนิพนธ์ ยังย้ำถึงผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ว่า วันนี้ที่พรรคปชป.ได้ทำเอาไว้ในเรื่องของกองทุนเพื่อการกู้ยืมทางการศึกษา (กยศ.) ในสมัยนายชวน หลีกภัย เพราะเราต้องการเห็นถึงความยั่งยืนทางการศึกษา เพื่อให้ลูกหลานของคนที่มีฐานะยากลำบาก และมีบุตรหลายคนซึ่งจะเป็นภาระต่อครอบครัว ได้มีโอกาสเข้าถึงทางการศึกษา
ฉะนั้นกองทุนนี้จึงเกิดขึ้น และลูกหลานก็ได้รับประโยชน์จากกองทุนนี้ กว่า 6 ล้านคน และได้ใส่งบลงไปในกองทุนนี้แสนกว่าล้านบาท ดังนั้น ถ้าจะเปลี่ยนหลักเกณฑ์ อย่างไรก็ต้อง นึกถึงความจริงคือ ประชาชนได้ประโยชน์ ลูกหลานของชาวบ้านไม่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา และกองทุนต้องอยู่ได้อย่างถาวร
ดังนั้น การที่จะทำให้มีวินัยในเรื่องของการกู้ยืม สิ่งนี้เป็นความจำเป็น ถ้าเห็นว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ เราต้องแยกกองทุนนี้กับเรื่องการศึกษาฟรี ต้องแยกจากกันให้ได้ และพรรคปชป.จึงยืนยันว่า ความมั่นคงของกองทุนนี้เพื่อโอกาสของลูกหลานเราในวันข้างหน้า เราไม่อยากเห็นการส่งเสริมให้คนไม่มีวินัย เพราะวันข้างหน้าจะเป็นปัญหากับลูกหลานเราในอนาคต จะไม่มีแหล่งเงิน หรือ โอกาสเข้าถึงการศึกษาของชาติได้
“นี่คือ สิ่งที่ประชาธิปัตย์ค่อนข้างมีความกังวล เพราะพรรคปชป.มีการส่งเสริมแน่นอน ที่จะให้มีความเสมอภาคทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพ เราไม่ต้องการเห็นการเอาฐานะความยากจน หรือ ความร่ำรวยมาเป็นอุปสรรคทางการศึกษา” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ