วันที่ 5 ต.ค.2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการเตรียมยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า พรรคฝ่ายค้านได้ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว พรรคมีมติชัด เมื่อเปิดสมัยประชุมวันที่ 1 พ.ย. จะเริ่มยื่นญัตติทันที ญัตตินี้เป็นเรื่องการสอบถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เมื่อถามว่า หลังการประชุมเอเปกจะมีแนวโน้มยุบสภาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอขยับตัวเลขขึ้นมา 90% โดยเหตุผลการยุบสภาอยู่ 2 ข้อ คือ 1.ผู้มีอำนาจเห็นว่าตนเองได้เปรียบทางการเมือง ที่จะใช้ในการเลือกตั้งเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป
2.เป็นเรื่องประเด็นเงื่อนไขทิศทางทางการเมือง นั่นคือ ความเห็นและความต้องการของประชาชน ถ้ากระแสประชาชนต่อต้าน ไม่เห็นด้วย กับการอยู่ในตำแหน่งของนายกฯ และมีการขอคืนอำนาจ ก็จะเป็นตัวเร่งให้ตัดสินใจยุบสภา ดังนั้น หลังเอเปกมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์จะประกาศยุบสภา อาจจะเป็นธันวาคมหรือมกราคมก็แล้วแต่ แต่ใจเขาอยากจะอยู่ครบเทอมแน่นอน
มื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ อาจจะยุบสภาและรักษาการยาวจนถึงช่วงเดือนมีนาคม 2566 นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เงื่อนไขนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง เรากังวลในเรื่องที่ไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง ขณะนี้อยู่ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น ประมาณอีก 1 เดือนน่าจะทราบผล
กรณีถ้าศาลวินิจฉัยว่าเรื่องนี้เป็นสาระสำคัญและขัดกับรัฐธรรมนูญ กฎหมายจะตกทั้งฉบับ ก็จะต้องไปเข้าสู่กระบวนการใหม่ เงื่อนไขนี้จะเกิดขึ้นในกรณีที่ยุบสภาแล้วไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่น่าจะทำ เพราะจะเป็นการกระตุ้นหรือเติมเชื้อเพลิงให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยมีพลังมากขึ้น แล้วจะเกิดความวุ่นวาย
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า เรื่องการยุบสภาเราไม่กังวล เพราะเราตั้งสมมติฐานว่าการยุบสภาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ทางพรรค เตรียมความพร้อมตลอดเวลา ทั้งคน นโยบาย หรือหากลากยาวไปถึงเดือนมีนาคม อาจจะเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ