“สามารถ”ยกเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู ดันพม.เจ้าภาพแก้ปัญหาผู้ติดยาเสพติด

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และ ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับกรณีเกิดเหตุสลด “กราดยิงหนองบัวลำภู” ที่อดีตตำรวจ ยศ ส.ต.อ. ผบ.หมู่ป.สภ.นาวัง จว.หนองบัวลำภู เครียดจากการถูกให้ออกจากราชการเพราะเคยถูกจับคดีครอบครองยาบ้าและเสพยาจนหลอน ก่อเหตุกราดยิง เด็กและชาวบ้าน ในศูนย์เด็กเล็ก จนมีผู้เสียชีวิต 36 ศพ ในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น.ของวันที่ 6 ต.ค.65 ที่ผ่านมา

นายสามารถ กล่าวว่า  ตนเองเห็นข่าวกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น คิดว่าเรื่องนี้จะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้

“ผมเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขปัญหายาเสพติดของสภาผู้แทนราษฏร์ ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ตำรวจติดยาเสพติดจนถูกให้ออกจากราชการทำให้เกิดความเครียดจนนำมาสู่การก่อเหตุน่าสลดและยังมาปิดฉากชีวิตตัวเองและครอบครัวอย่างน่าอนาถ” 

เรื่องนี้มั่นใจว่ากระทรวงยุติธรรม มีกฎหมายที่จะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและเสียหายจากเรื่องนี้ คาดว่าอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะเร่งดำเนินการเยียวยาตามกฏหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นคาดว่าจะมีเงินเยียวยาศพละ 110,000 บาท ตามกรณีและขึ้นอยู่กับคำพิจารณาของอนุกรรมการฯ 

“ผมมองว่ายาเสพติดนั้นเป็นภัยร้ายที่สะสมอยู่ในสังคมไทย ปัจจุบันยาเสพติดมีมากขึ้น เนื่องจากเปลี่ยนจากการผลิตด้วยฝิ่น มาเป็นทำจากสารเคมีทำให้ผลิตกันได้ง่าย จากที่ได้ข้อมูลมาว่า ส.ต.อ.ผู้ก่อเหตุนั้น ติดยาเสพติดมาตั้งแต่เด็ก นั่นคือ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่ายาเสพติดมันทำลายชีวิต ทั้งนี้ยาเสพติดไม่ได้ทำลายชีวิตแค่คนเสพ แต่ทำลายครอบครัวด้วย” 

ดังนั้นการทำลายวงจรนี้ต้องตัดทั้งระบบวงจรยาเสพติด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และก็มั่นใจว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ตลอดจนข้าราชการทุกๆ คนให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามในเรื่องนี้ คิดว่าการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดนั้น เราแก้ปัญหาถูกทางหรือไม่ เพราะตอนนี้ยาเสพติดมีมากขึ้นปัญหาคนเสพคนเกิดอาการคลั่งมีมากขึ้น

ตนมองว่าการยึดทรัพย์และให้รางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส คือ ยิ่งแจ้งจับได้เยอะยิ่งได้รางวัลมากนั้น ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร บางทีตนเองนึกถึงพ่อค้าหมูที่เลี้ยงหมูให้อ้วนก่อนแล้วค่อยเชือด เพราะจะได้น้ำหนักมาก ขายได้ราคา  

แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหมูแต่เป็นเรื่องของยาเสพติด ยาเสพติดเพียงหลุดมาหนึ่งเม็ดก็สามารถทำลายชีวิตของคนหนึ่งคน หรือ หนึ่งครอบครัว และจะมีเหตุการณ์อีกมากมายที่จะเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู เกิดความสูญเสียทั้งทางตรง ทางอ้อมนับหลายสิบหลายร้อยครอบครัว 

                                
จึงอยากให้มีการแก้ไขปัญหายาเสพติดดำเนินการทุกมิติ แม้ทุกวันนี้สามารถจับยึดเงินจากการค้ายาเสพติดเป็นหมื่นล้าน แต่ยาเสพติดก็ไม่ได้ลดลงเลย การแก้ไขปัญหานี้ต้องตัดต้นวงจร ทำทั้ง demandและsupply  ในการประชุมกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขปัญหายาเสพติดของสภาผู้แทนราษฏร ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง  จนรายงานนี้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งได้ยื่นเรื่องไปยังสภาผู้แทนราษฏร จนไปถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ แล้วขณะนี้ ก็ต้องรอว่าท่านชวน หลีกภัย จะหยิบยกปัญหาเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาเมื่อไร  

“ผมเองในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการฯ คิดว่าเราต้องบำบัดผู้ติดยาเสพติดให้หาย ขณะนี้เรายังขาดเจ้าภาพในการดูแลผู้ติดยาเสพติด จึงอยากเสนอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. รับเป็นเจ้าภาพ โดยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ช่วยกันดูแลบำบัดผู้เสพยาเสพติด ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ ผู้เสพยาเสพติด ครอบครัวเขาไม่เอาตำรวจไม่ได้มีอำนาจจับกุม เพราะตัวพรบ.ยาเสพติด ได้มีการแก้ไขปริมาณยาเสพติด” 

นายสามารถ กล่าวว่า กรมคุมประพฤติที่เมื่อก่อนมีอำนาจในการบำบัดฟื้นฟูก็ได้ถูกยกเลิกอำนาจนี้ไป เพราะฉะนั้นคิดว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งชื่อกระทรวงก็บอกอยู่แล้ว ควรเป็นเจ้าภาพเรื่องของผู้ติดเสพติดให้เลิกเสพยาอย่างยั่งยืนเพื่อทำลายวงจรนี้ เมื่อไม่มีคนซื้อ คนขายก็หมดไป นั่นคือเจตจำนงค์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด 

“ถึงอย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าเราต้องอย่าปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเราต้องถอดบทเรียน ตนพร้อมที่จะเดินและยืนเคียงข้างกับคนไทยทุกคน ท้ายสุดนี้ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสียทุกครอบครัว มั่นใจว่าท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีจิตใจตั้งมั่นในการแก้ไขปัญหานี้ และพร้อมช่วยเหลือประชาชนทุกคน” นายสามารถ ระบุ