วันที่ 13 ตุลาคม 2565 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช หรือ “หมอมิ้ง” คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย(พท.) เปิดเผยกับ "ข่าวข้นคนข่าว" ว่า พรรคจะส่ง 3 รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ โดยการเปิดตัว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นลูก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อนโยบายนายทักษิณ ยังอยู่ตรงนั้น ความนิยมต่างๆ หรือท้ายที่สุด เป็นหลักประกันว่า ในประเทศภาวะแบบนี้ พรรคยังหัวใจเดิม พร้อมจะแก้ปัญหา ซึ่งได้คิดใหม่ ทำใหม่ ตลอดเวลา มาพร้อมกับคนรุ่นใหม่
นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร จะเป็น 1 ในรายชื่อแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการภายในพรรค แต่เชื่อว่าความนิยม ความคาดหวังเกิดขึ้น น.ส.แพทองธาร เป็นหนึ่งในนั้น ที่จะเสนอชื่อ แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ความสมัครใจของ น.ส.แพทองธาร ด้วย แต่การตัดสินใจมาเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว เชื่อว่าเตรียมพร้อมที่จะรับตำแหน่งติด 1 ใน 3
ส่วนจะต้องลง ส.ส.เขตด้วยหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบ ต้องดูสถานการณ์ต่อไป เพราะว่ากติกาไม่ได้กำหนด ครั้งนี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หากแก้รัฐธรรมนูญแล้วไม่มีใครขัดอีก ถือว่าผ่านทุกอย่าง นอกจากจะมีการบิดจนเปลี่ยนใหม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าทำตามกระบวนการ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ถ้าพรรคได้ 50% ก็ 50 คน แต่คิดว่าถ้าเลือกตั้ง ผสมกันแล้วก็ไม่ต่ำกว่า 250 เสียง
สำหรับกระแสข่าวมีชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วยนั้น เป็นคำถามสื่อที่ไปถาม น.ส.แพทองธาร แต่หลักการของพรรค อะไรที่เป็นปัญหาของประชาชน ก็พร้อมแก้ไข ใครก็ได้ที่สามารถหรือเหมาะสม พรรคยินดีพร้อมเปิดกว้าง เพราะเพื่อไทยเป็นพรรคของประชาชน
สำหรับคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ คือ
1.ต้องมีความรู้ความสามารถนำพาประเทศได้
2.มีจุดยืนประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ
3.นำนโยบายพรรคทำให้เป็นจริง
"ไม่ทราบใครโยนหินถามทาง อยู่ๆ โผล่ขึ้นมา แต่ไม่รู้ว่าใครโยนไม่โยน เป็นที่ตอบรับหรือไม่ แต่เท่าที่เช็กเป็นการเสริมพรรคให้เข้มแข็ง แต่ถ้าจะเสนอใคร พรรคก็ต้องมีกระบวนการหารือ โดยผมไม่ได้เป็นกรรมการบริหาร แต่ถ้าระดมสมอง คนเที่เราเสนอต้องพร้อมที่สุด และถ้าเสนอทั้ง 3 ชื่อ ก็ต้องพร้อม ที่จริงมีมากกว่านั้น แต่คนเหมาะที่สุดอยู่ที่สถานการณ์นั้นเป็นอย่างไร" นพ.พรหมินทร์ กล่าว
นพ.พรหมินทร์ ยังกล่าวถึง น.ส.แพทองธาร ว่า เรียนรู้เร็ว มีจิตใจ หัวใจ เพื่อประชาชน และผลักดันทำอะไร พร้อมเรียนรู้หาทางออก แต่ความนิมยมเกิดขึ้นจากประชาชนรู้สึก และถ่ายทอดเจตนาออกไปได้
ส่วนประเด็นที่พรรคภูมิใจไทย จะมาขวางแลนด์สไลด์นั้น นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ภูมิใจไทย หรือ พลังประชารัฐ รวมถึงทุกพรรคก็พยายามเติบโต แต่ความเป็นจริงอยู่ที่การพิสูจน์ให้ประชาชนยอมรับ
ส่วนเรื่องการเล่นนอกเกม หรือ ยุบพรรค โดยเพื่อไทยเป็นฝ่ายตั้งรับ พรรคมีความระแวดระวัง เพราะกฎหมายใช้กับเพื่อไทยข้างเดียว เช่น กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือ พล.อ.ประยุทธ์ มันพังไปถึงสถาบันที่ตัดสิน แต่พรรคก็มีการประเมิน มีแผนรุกและแผนถอย ถ้าคิดแบบ 500 ซึ่งเขาเพิ่งคิดออก จึงถอย เพราะคิดผิด ว่าจะเป็นเหมือนครั้งที่แล้วที่ทำได้ แต่พรรคก็มีวิธี
นพ.พรหมินทร์ กล่าวด้วยว่า สำหรับพรรคเพื่อไทยมีคนเดินเข้ามาเรื่อยๆ แต่คนที่ลำบากร่วมกันก็ควรจะได้ แต่ต้องจัดกันให้ดี ทุกครั้งที่รู้สัญญาณว่าแบบไหนจะแลนด์สไลด์ ส่วนถ้าได้ตามเป้าแล้วปิดสวิตช์ ส.ว.นั้น เมื่อฉันทานุมัติแบบนี้ ส.ว. ก็ต้องทบทวน หากไม่ ก็จะมีบาดแผลของตัวเอง เช่นเดียวกันกับ คำวินิจฉัยส่วนตัวต้องเขียนเพื่อให้คนศึกษา
เมื่อถามถึงการประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะอยู่ครบวาระ หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่าก็คงลากๆ ไป เพราะไปต่อไม่ได้ แล้วไป “ยุบสภา” ช่วงท้ายๆ เหมือนสมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ เมื่อปี 2544 เพื่อความได้เปรียบ