ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับ นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ และ นายธนวัช ภูเก้าล้วน ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับข้อเสนอในการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ในนามของทีมกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ มีข้อเสนอถึงรัฐบาล จากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ปัญหาที่พบในพื้นที่ 4 ประเด็นด้วยกันคือ
1.แม้ในระดับนโยบายจะมีการประกาศเป็นวาระแห่งชาติมาแล้วหลายครั้ง แต่กลับพบว่าในทางปฏิบัติไม่ได้มีการเอาจริงเอาจังในการปราบปราม โดยเฉพาะการเก็บข้อมูลผู้เสพยาในพื้นที่ ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์หลอนยาจนนำไปสู่ความรุนแรงไม่เว้นแต่ละวัน จึงต้องเร่งแยกผู้เสพยาออกจากสังคมโดยเร็ว ลดภาระของกระทรวงมหาดไทย คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
2.หน่วยงานที่ดูแลการบำบัดอยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข แต่ผู้เสพจำนวนไม่น้อยมีพฤติกรรมก้าวร้าว สาธารณสุขจึงไม่สามารถจัดการได้ ควรมอบหน้าที่นี้ให้กระทรวงกลาโหม ในฐานะที่ต้องปกป้องความมั่นคงของชาติ จัดพื้นที่ในค่ายทหาร เป็นสถานบำบัดกลุ่มผู้เสพที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ปรับบทบาทให้สาธารณสุขทำหน้าที่ทางวิชาชีพร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกองทัพ รวมถึงเสนอให้ยกเลิกการสมัครใจบำบัด เพราะไม่มีอยู่จริง ต้องใช้มาตรการเด็ดขาด พบผู้เสพจับบำบัดทันที
3. การปราบปรามที่ผ่านมาให้ตำรวจเป็นเจ้าภาพ แต่กลับทำงานในลักษณะรอคำสั่งจากหน่วยเหนือ ปราศจากการทำงานเชิงรุก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองเป็นหลัก
และ 4.หน่วยงาน ป.ป.ส. ทำงานตามตัวชี้วัด โดยไม่ยอมรับความจริง เช่น ตั้งเป้าตัวเลขหมู่บ้านสีขาว ทั้งที่ไม่มีอยู่จริง ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องโกหก เพื่อผ่านตัวชี้วัด
ด้านนายสาคร เกี่ยวข้อง กล่าวว่า สนับสนุนที่รัฐบาลขยับเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามยาเสพติด แต่อยากให้มีความชัดเจนด้วยว่า เมื่อมีการสแกนทุกพื้นที่เพื่อหาผู้เสพยาแล้ว จะนำคนเหล่านั้นไปไหน สถานที่บำบัดมีเพียงพอหรือยัง เพราะสาเหตุที่มีการแก้กฎหมายยาเสพติด ให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วย ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องการลดภาวะนักโทษล้นคุก ส่งผู้เสพกลับบ้าน ลดภาระสถานบำบัด แต่กลับกลายเป็นว่าส่งอาชญากรเข้าสู่สังคม เรื่องเหล่านี้ต้องเร่งแก้ปัญหา
“ทีมกระบี่พรรคประชาธิปัตย์ สาคร พิมพ์รพี ธนวัช เสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร 5 ปี นำงบประมาณทั้งหมด มาใช้ในการบำบัดผู้ติดยาเสพติด เปิดค่ายทหารเป็นสถานบำบัด ใครบำบัดแล้วให้งานทำในค่ายทหาร นอกจากทำให้ผู้ติดยา บำบัดต่อเนื่อง หายขาดแล้ว ยังให้มีรายได้ เพื่อไม่เป็นภาระ หรือปัญหาต่อครอบครัวและสังคมด้วย เพราะถ้าไม่มีการบำบัดฟรี มีโอกาสสร้างรายได้ คนเหล่านี้ก็มองไม่เห็นอนาคต สุดท้ายกลับสู่โคจรเดิมไม่รู้จบ
ปัจจุบันหากจะส่งลูกหลานไปบำบัดยาเสพติดมีค่าใช้จ่าย เช่น ถ้าเป็นศูนย์บำบัดเอกชนที่จังหวัดกระบี่ ต้องจ่ายเดือนละ 8 พันบาท มีจำนวนผู้เข้าบำบัดขณะนี้มากถึง 2,500 คน ถ้ารัฐเข้ามาดูแลตามข้อเสนอของทีมกระบี่พรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าจะทำให้การแก้ปัญหายาเสพติดมีประสิทธิภาพมากขึ้น สังคมก็ไม่ต้องหวาดผวาต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากอาการหลอนยา” นายธนวัช ภูเก้าล้วน กล่าว