วันที่ 25 ต.ค.2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการเรื่องสถานการณ์น้ำท่วม
โดยขอให้เร่งระบายน้ำอย่างเร่งด่วน ดูแลและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมถึงการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รายงานในที่ประชุม ครม. ถึงภาพรวมของการช่วยเหลือในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในส่วนของน้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.-24 ต.ค.65 มีจำนวน 59 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ และมีครัวเรือนได้รับผลกระทบ 528,000 ครัวเรือน ซึ่งในปัจจุบันยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมขังหรือน้ำล้นตลิ่ง 26 จังหวัด และมีครัวเรือนได้รับผลกระทบกว่า 435,700 ครัวเรือน
นายอนุชา กล่าวว่า ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รายงานในที่ประชุม ครม.เพิ่มเติมว่า ได้ช่วยเหลือจากหน่วยงานหลัก คือ กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ช่วยเหลือไปแล้ว 79 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินทดรองราชการในอำนาจของอธิบดี ปภ.
และการสนับสนุนการดำเนินงานในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของศูนย์ ปภ. ในแต่ละเขตของพื้นที่อุทกภัย รวมถึงมีการป้องกันยับยั้ง เป็นวงเงินใน 8 จังหวัด และเป็นวงเงินเชิงบรรเทาความเดือดร้อนอีก 12 จังหวัด จำนวน 79 ล้านบาท
สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนไป แล้ว 181 ล้านบาท ซึ่งเป็นการช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นในทันทีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้ากรณีจำเป็นเร่งด่วน โดยใช้เงินสะสมของอปท.เพื่อช่วยเหลือตามความจำเป็น และเหมาะสม ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงบประมาณได้ตั้งงบประมาณสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในส่วนของงบกลางอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท
ขณะที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ช่วยเหลือในบางส่วน ขณะที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการ ทั้งมาตรการการลดหย่อนภาษี การช่วยเหลือผู้ประกอบการในเรื่องการขยายระยะเวลาการยื่นแบบภาษี รวมถึงเรื่องการยกเว้นค่าเช่าสำหรับผู้เช่าในที่ราชพัสดุ เป็นต้น
นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทานเร่งผลักดันน้ำออกสู่แม่น้ำสายหลัก ทั้งนี้ ในส่วนการช่วยเหลือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางกรณีประสบภัยน้ำท่วม
นอกจากนี้ในส่วนของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้มีการช่วยเหลือผ่านกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย โดยมีเรื่องของค่าจัดการศพ ,เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต, เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและมีบุตรอายุไม่เกิน 25 ปี,ค่าวัสดุการก่อสร้างในการซ่อมแซมบ้านเรือนบางส่วน,ค่าอุปโภคเครื่องใช้อื่นๆที่จำเป็นในครอบครัว
และมีการจัดทำถุงยังชีพตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.-21 ต.ค.นี้ จำนวน 92,300 ถุง ใน 13 จังหวัด เป็นเงิน 65 ล้านบาท
“นายกฯ สั่งการให้กระทรวงต่าง ๆ และกระทรวงมหาดไทยไปหาแนวคิดในการช่วยเหลือเพื่อให้ประชาชนได้รับการเยียวยา โดยได้นำแนวทางการเยียวยาในปี 2554 ครอบครัวละ 5,000 บาท และปี 2559 ครัวเรือนละ 3,000 บาท มาเป็นแนวทางในการพิจารณาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
นายกฯ ย้ำว่าขอให้เร่งดำเนินการจัดทำ โดยอาจจะไม่ต้องรอให้น้ำลดแล้วค่อยพิจารณาดูแลอาจจะพิจารณาโดยเร็วภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ประชาชนมีความสบายใจว่ารัฐบาลกำลังเร่งเยียวยา นอกจากนี้ ผู้ที่ยังติดค้างอยู่ในบ้านหากมีความจำเป็นเหตุเป็นที่จะต้องให้การช่วยเหลือ รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง ให้อุปกรณ์เทคโนโลยีที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลืออย่างทั่วถึง” นายอนุชา กล่าว