วันนี้(25 ต.ค.65) ณ ศาลาการเปรียญวัดบ้านเหล่าหนาด ต.ดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย นางนิตยา นาโล ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน และประชาชน ร่วมกับ นางหนูเรียม อินทรักษ์ ผู้ใหญ่บ้านเหล่าหนาด นางอมรา เดชบุรัมย์ นายอภิชาต คงแสนคำ รองนายก อบต.ดอนหว่าน นายอนันต์ มาพรหมราช ผอ.รพ.สต.ดอนหว่าน
นายศราวุธ พันธุ์ชมพู ผู้ใหญ่บ้านหล่ม นายสกล เดชบุรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านดอนหว่าในหมู่ นายสนอง ศรีบุญเรืองผู้ใหญ่บ้านดอนหว่าน นางจงจิต ทองภู ผู้ใหญ่บ้านหนองค้อหมู่ นายชัยศักดิ์ พันต้น ผอ.ร.ร.บ้านหนองหล่มน้อยหนองหล่มใหญ่ และ ประชาชนจำนวนมาก เปิด"หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน" 2 อำเภอ ของจังหวัดมหาสารคาม คือ อำเภอเมือง และ “อำเภอกุดรัง” รวม 43 หมู่บ้าน
ตามแนวทางของ “แรมโบ้” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนที่อยู่ตามหมู่บ้าน และ ชนบท มาร่วมกันแสดงพลังในการเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ ประชาชน ตามสโลแกนที่ว่า “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ณ ศาลากลางบ้านหนองโดน ต.นาโพธิ์ อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม
โดยมี นายสมพร บุญพา ที่ปรึกษานายก อบจ.มหาสารคาม นายบุญคง แสงสิทธิ์ นายก อบต.หนองแวง นายทองพูน จันทร์ศรี ประธานสภา อบต.ห้วยเตย นายบุญยงค์ ธรรมการุณ ผู้ใหญ่บ้านหนองโดน นายอุทัย รัตรองใต้ ผู้ใหญ่บ้านธรรมพัฒนา นางสุพรรณี โลเชียงสาย ผู้ใหญ่บ้านหนองคูณทอง นางอภิรมณ์ นิตยารส ประธานวิสาหกิจชุมชน และ ประชาชนรอ “เปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” จำนวนมาก
นายอานนท์ แสนน่าน กล่าวว่า นักการเมืองที่โกงกินแผ่นดินและจาบจ้วงล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่าคิดเนรคุณแผ่นดิน เพราะบาปกรรมจะตามสนองจะไม่มีแผ่นดินอยู่ต้องไปจบชีวิตลงต่างประเทศเหมือนกับหลายๆ คนที่คิดทรยศต่อแผ่นดิน พระมหากษัตริย์เปรียบเสมือน “เทวดา” ที่ทำให้พวกเรามีอยู่มีกิน ร่มเย็นเป็นสุข มาจนถึงทุกวันนี้ก็ด้วยเพราะบารมีใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร
พวกเราต่างปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยพระบารมี ฟื้นฟูปฐพีไทย ดั่งหยาดทิพย์ชโลมแผ่นดิน ไม่มีก้อนดินใดในผืนดินนี้ที่น้ำพระหฤทัยของพระองค์กษัตริย์ไทยทุกพระองค์ไปไม่ถึง พวกตนจึงขอประกาศ “อยู่อย่างจงรัก ขอตายอย่างภักดี” ไปตามจุดต่างๆ ในการเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน
ตน และ ทางนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ประชาชนทุกพื้นที่ของภาคอีสาน รวม 20 จังหวัด ต่างขานรับการเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ประชาชนชาวอีสานทุกคนเป็นพลังเงียบที่มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่วันนี้ทุกคนประกาศพร้อมกันจะไม่เป็นพลังเงียบ จะขอออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ถ้าหากประเทศไทยไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น นักการเมืองและข้าราชการประจำจะไม่เห็นคุณค่าของประชาชน แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณทรงปัดเป่าช่วยเหลือ ข้าราชการที่ดี และนักการเมืองน้ำดีก็มีกำลังใจในการทำงาน
อย่างน้อยก็รู้ว่าฟ้ามีตา สวรรค์มีใจ และทุกสิ่งอย่างยังอยู่ในพระเนตรพระกรรณ เพราะถ้าหากไม่มีสถาบันฯ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยก็อาจนำมาสู่ปัญหานักการเมือง จะทะเลาะตบตีกันหนักมากจนไม่มีใครฟังใคร ประชาชนจะถูกยุยงปลุกปั่นให้ออกมาทะเลาะกันรุนแรงเพื่อผลประโยชน์แต่ละฝ่าย โดยไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครฟังใคร บ้านเมืองจะวุ่นวายมากขึ้น เพราะขาดผู้ที่มีบารมีพอที่ทุกคนเต็มใจรับฟัง
“ดีไม่ดีจะตีกันตายจนเกิดอาจก่อให้เกิดสงครามกลางเมือง และที่สำคัญประชาชนจะเคว้งคว้าง ขาดศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจ ความคิดในการเสียสละทำเพื่อบ้านเมืองจะลดลง ประเทศไทยอาจจะแตกแยกแบ่งออก ไทยเหนือ ไทยใต้ ต่างชาติจะเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย แผ่นดินไทยจะร้อนระอุไม่ได้แตกต่างจากหลาย ๆ ประเทศที่สิ้นชาติ หรือแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ประเทศ
แน่นอนว่าชาติมหาอำนาจย่อมหวังเข้ามาแทรกแซงไทย หลาย ๆ ประเทศเมื่อสิ้นสถาบันแล้วมหาอำนาจก็จะเข้ามาครอบงำ ทำให้ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของชาติมหาอำนาจซึ่งพวกเราคงไม่มีวันยอม จำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราคนไทยต้องดำรงรักษาไว้ซึ่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ”