“บิ๊กต่อ”เผยรวบ 2 จนท.รัฐ“พ.ต.ท.”ร่วมฉกข้อมูลคนไทยขายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

28 ต.ค. 2565 | 07:52 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ต.ค. 2565 | 15:03 น.

“บิ๊กต่อ”เผยตำรวจไซเบอร์ รวบ 2 เจ้าหน้าที่รัฐ หนึ่งในนั้นเป็นตำรวจ ยศ “พ.ต.ท.” ขายข้อมูลคนไทยกว่าพันราย ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ลวงเหยื่อ พบเงินบัญชีม้าโอนเข้าวันละ 2 หมื่น รายได้ตกเดือนละ 6 แสน เตือนอย่าเห็นแก่ผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย มีโทษสูง

วันนี้(28 ต.ค.65) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกันเปิดเผยกรณีตรวจพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยได้มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว

 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากปฏิบัติการ “เด็ดปีกมังกร” จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาของทางบช.สอท. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 16 ราย เป็นกลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้า 8 ราย กลุ่มรวบรวมบัญชีม้าเพื่อส่งต่อให้นายทุนชาวจีน 1 ราย และกลุ่มที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลผู้เสียหายเพื่อนำไปใช้ในการหลอกลวง 2 ราย นั้น

สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลของผู้เสียหายเพื่อนำไปใช้ในการหลอกลวง 2 รายดังกล่าว เป็นเจ้าที่รัฐ ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบเงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์โอนเข้าบัญชีของเจ้าที่รัฐทั้ง 2 รายอย่างต่อเนื่อง คาดว่าทำมานานพอสมควร ซึ่งมีข้อมูลของคนไทยถูกนำไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วกว่า 1,000 ข้อมูล โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ราย อยู่ในส่วนงานที่สามารถดูฐานข้อมูลของผู้เสียหายได้

 

มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกจับ รายแรก เป็นตำรวจ ยศ “พ.ต.ท.” พฤติการณ์ คือจะเข้ารหัสไปกดดูฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหาย โดยพบว่าเข้าไปกดดูมากจนนับครั้งไม่ถ้วน 

ส่วนรายที่ 2 เป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ของกระทรวงแห่งหนึ่งจะเข้าระบบไปล้วงข้อมูลการจดทะเบียนการค้า หรือ ตราธุรกิจของผู้เสียหาย ไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจะดูข้อมูลว่าเหยื่อว่ารายใดมีฐานะร่ำรวย มีทุนจดทะเบียนทางธุรกิจด้วยเงินจำนวนมากแล้ว จึงนำข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 


โดยทั้ง 2 ราย จะมีรายได้จากการขายข้อมูลคนไทยเดียวกัน ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน วันละ 20,000 บาท หรือ เดือนละ 600,000 บาท ซึ่งทางธนาคารพบการเคลื่อนไหวของเงินจากบัญชีม้า เข้ามายังบัญชีของผู้ต้องหา จึงประสานตำรวจตรวจสอบ และนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว


สำหรับผู้เสียหายรายล่าสุด ที่ถูกฉกข้อมูลทะเบียนราษฎร์ไปขาย ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นแพทย์ อาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำการปลอมเว็บไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI แล้วโทรแจ้งผู้เสียหายว่าทำความผิดคดีอาญาจะต้องถูกตรวจสอบเงินในบัญชี 


พร้อมส่งหมายจับปลอมที่มีภาพใบหน้าของผู้เสียหาย และข้อมูลทางธุรกิจไปให้ผู้เสียหายดู ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีมาจำนวนกว่า 6,970,000 บาทก่อนจะมารู้ภายหลังว่าถูกหลอก จึงได้แจ้งความออนไลน์เมื่อ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามขอฝากเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไปได้

 

“อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยที่มีคนนำมามอบให้ เพื่อแลกกับข้อมูลที่ท่านสามารถเข้าถึงได้และไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ของท่าน เพราะหากตรวจพบว่าข้อมูลนั้นถูกกลุ่มคนร้ายนำไปใช้ประโยชน์ท่านก็จะถูกจับกุมดำเนินคดี และมีโทษตามกฎหมายที่หนักมากยิ่งขึ้นกว่าคนทั่วไป” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุ