"ประหยัด พวงจำปา" ฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนมติ ปปช. ปมถูกไล่ออกรองเลขาฯ

15 พ.ย. 2565 | 04:00 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2565 | 12:13 น.

"ประหยัด พวงจำปา" ส่งทนายยื่นฟ้อง ประธาน ปปช.-พวก ขอศาลปกครอง เพิกถอนมติไล่ออกจากเก้าอี้อดีตรองเลขาฯ ป.ป.ช. อ้าง คำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรรมการมีอคติ ไม่เป็นกลาง

ที่ศาลปกครอง นายอาทร ดำคง ทนายความผู้รับมอบอำนาจ นายประหยัด พวงจำปา อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วัชรพลประสารราชกิจ ประธานกรรมการป.ป.ช. และกรรมการป.ป.ช.

 

ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2 ขอให้ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของประธานป.ป.ช. เมื่อวันที่ 26 ส.ค.65 ที่มีคำสั่งลงโทษไล่ นายประหยัด รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ออกจากราชการ

 

 ตามมติการชี้มูลของคณะกรรมการป.ป.ช. ที่มีมติว่านายประหยัด ร่ำรวยผิดปกติ โดยคำสั่งลงโทษไล่ออก เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลายประการ เช่น
 

นายประหยัด พวงจำปา อดีตรองเลขาฯ ป.ป.ช.

 

1.ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของคณะกรรมการไต่สวนที่คณะกรรมการป.ป.ช.แต่งตั้งขึ้น ไม่ปรากฏว่านายประหยัด มีการกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ อันจะเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด

 

โดยทรัพย์สินที่คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติ ชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติ เป็นทรัพย์สินของคู่สมรส ซึ่งสามารถแสดงหรือพิสูจน์ถึงการได้มาซึ่งทรัพย์สินได้อย่างครบถ้วน โดยรายการทรัพย์สินต่างๆ มีทั้งในส่วนที่ถือครองแทนบุคคลอื่น เพื่อช่วยเหลือในทางธุรกิจ หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจาก การประกอบธุรกิจในครอบครัวกงสี และเป็นทรัพย์สินที่ได้มาก่อนที่นายประหยัดจะเข้ารับ ตำแหน่งรองเลขาธิการป.ป.ช.

 

2.นายประหยัด ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และตำแหน่งรองเลขาธิการที่ได้รับการแต่งตั้ง ก็ไม่สามารถ เอื้อประโยชน์ที่จะใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต หรือกระทำความผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ที่มีการชี้มูลแต่อย่างใด
 

 

3.กรรมการป.ป.ช.บางราย มีส่วนได้เสียในเรื่องที่กล่าวหา มีอคติ มีความไม่เป็นกลาง และแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อกลั่นแกล้ง 4.มติของคณะกรรมการป.ป.ช. ที่ลงมติชี้มูล มีคะแนนเสียงเท่ากัน 4 ต่อ 4 เสียง แต่ปรากฏว่ามีการชี้มูล ไปในทางที่เป็นผลร้าย แก่นายประหยัด โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

 

 การยื่นคำฟ้องต่อ ศาลปกครองกลาง ในครั้งนี้ เพื่อคุ้มครองศักดิ์ศรีของข้าราชการมิให้ถูกกลั่นแกล้ง และต้องการสร้างบรรทัดฐาน ในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการป.ป.ช. หากติดตามข่าวสารจะพบว่า มีหลายคดีที่คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติไม่ชี้มูลความผิด โดยยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยของประชาชน

 

นายอาทร กล่าวด้วยว่า หรือหลายคดีที่เมื่อคณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูล แต่เมื่อมีการฟ้องร้องต่อศาล ปรากฏว่าศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ส่วนเรื่องที่ยื่นฟ้องในวันนี้ ยังไม่ได้มีเรื่องคำขอคุ้มครองชั่วคราว ส่วนที่จะยื่นขอหรือไม่อาจต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่วันนี้เป็นการยื่นฟ้อง ขอเพิกถอนคำสั่งก่อน