จากปัญหาวิวาทะทางการเมือง ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ เรื่องพรรคร่วมรัฐบาลกับมารยาททางการเมือง เรื่องร่างกฎหมายกัญชานั้น
ล่าสุดนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ชี้แจงต่อเรื่องดังกล่าวว่า สาระสำคัญของคำว่า มารยาทในทางการเมือง ควรต้องแยกออกจากกันกับคำว่าถูกต้อง การร่างกฎหมายที่ออกจากสภาจำเป็นที่ ส.ส.ต้องยึดถือประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคร่วม
นายราเมศ กล่าวอีกว่า มารยาทที่สำคัญที่มีต่อประชาชนคือการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ถ้าเห็นแก่ประโยชน์ของคำว่าพรรคร่วมรัฐบาล คงไม่ใช่สถาบันทางการเมืองที่จะเป็นหลักให้กับประเทศได้ ไม่อยากให้มาทวงบุญคุณกับพรรคร่วมรัฐบาลโดยปราศจากเหตุและผล
นโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา ไม่มีคำว่ากัญชาเสรี ชัดเจนในนโยบาย หน้าที่ 31 ข้อ 4 ตอนท้าย ได้ระบุไว้ชัดว่า“ศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการใช้ กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์อุตสาหกรรมทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการสร้างรายได้ของประชาชน โดยกําหนดกลไกการดําเนินงาน ที่รัดกุม เพื่อมิให้เกิดผลกระทบทางสังคมตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด” ชัดเจนในนโยบายรัฐบาล ไม่มีคำว่ากัญชาเสรี
มีหลักที่ตรงกันคือ ใช้กัญชาในทางการแพทย์ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ โดยนโยบายรัฐบาลได้บอกไว้ชัดว่าให้กําหนดกลไกการดําเนินงาน ท่ีรัดกุม เพื่อมิให้เกิดผลกระทบทางสังคม ตรงนี้จะชัดมากว่า นโยบายรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับสังคมโดยรวม
เมื่อร่างกฎหมายกัญชา เข้าสู่การพิจารณาของสภา เมื่อไม่รัดกุม และมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม อย่างแน่แท้อยู่แล้ว คนที่เป็น ผู้แทนปวงชนชาวไทย ส.ส.จะปล่อยให้ผ่านไปได้อย่างไร ก็ต้องปรับต้องแก้ให้ดีที่สุด หากไม่ดีที่สุด ก็มีสิทธิ์ไม่เห็นด้วยตามกลไกของสภา
ส่วนที่บอกว่าเยาวชนเข้าไม่ถึงแน่นอน ห้ามขายนักเรียน-นักศึกษานั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ข้อมูลนี้แค่บางส่วน แต่ในเนื้อหาของร่างกฎหมาย ความเป็นจริงการควบคุม ไม่ได้รัดกุมคลอบคลุมทั้งหมด
สถานศึกษาจะควบคุมอย่างไร การสูบกัญชาที่บ้านผู้จดแจ้ง ควบคุมด้วยมาตราไหน เด็กและเยาวชนไปรวมกลุ่มกัน ที่บ้านผู้จดแจ้งควบคุมด้วยมาตราไหน นี่คือสิ่งที่สังคม ตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วง
เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ในสภา ที่ต้องว่ากันไปตามกลไกของฝ่ายนิติบัญญัติ ผลจะออกมาอย่างไร ทุกพรรคควรเคารพการตัดสินใจ ซึ่งกันและกัน ถ้าชนะแล้วสังคมแพ้ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าแพ้แล้วสังคมได้ประโยชน์ นั่นคือชัยชนะของสังคม