"สุวัจน์"ลั่น!หากยุบสภา ชาติพัฒนากล้า พร้อมเลือกตั้ง มั่นใจได้ส.ส.เพิ่ม

25 พ.ย. 2565 | 03:19 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2565 | 11:35 น.

"สุวัจน์"แย้ม การเมืองเข้าโหมดการนับถอยหลังสู่การเลือกตั้ง ลั่น!เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น พรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมเต็มที่ มั่นใจจะได้ ส.ส.มากกว่าเดิมแน่นอน เผยต้นธันวาคมนี้ จ่อเปิดนโยบายเศรษฐกิจ

 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคฯ กล่าวถึงกระแส ยุบสภา จากปัญหาพรรคใหญ่ 2 ป.แยกทาง มองว่า ตอนนี้ภารกิจที่สำคัญในการเป็นเจ้าภาพเอเปคจบไปแล้ว

 

เป็นเรื่องที่ดีที่เราสามารถเป็นเจ้าภาพที่ดีแล้วสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกันสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการลงทุนต่างๆให้กับประเทศ ถือว่าประสบความสำเร็จ และตอนนี้เมื่อเอเปคจบไปแล้วต่อไปก็คงจะไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นภารกิจที่ใหญ่ ก็คงมาพูดกันถึงเรื่องการเมือง ซึ่งมันก็คงเข้าสู่โหมด นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งทั่วไป 

 

หลังจากนี้จะต้องรอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญด้วย อย่างเมื่อวานนี้ศาลก็ได้ให้คำวินิจฉัยในเรื่องของ กฎหมายพรรคการเมืองแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องกฎหมายเลือกตั้ง  ซึ่งบรรยากาศบ้านเมืองตอนนี้ทุกอย่างถือว่าเรียบร้อย

 

ส่วนการเลือกตั้งกติกาอะไรต่างๆก็คงจะต้องรอฟังความชัดเจนจากศาล รธน. และการตัดสินใจของรัฐบาล ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทรืโอชา นายกรัฐมนตรีว่าจะให้มีการเลือกตั้งเมื่อไหร่  คิดว่าทุกพรรคการเมืองต้องพร้อม ตอนนี้บรรยากาศก็พร้อมแล้วทุกอย่าง

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.)

 

ส่วนปัญหาที่กำลังร้อนแรงจากปัญหาพรรคใหญ่พรรครัฐบาล 2 ป.จะแยกทางกันคิดว่าควรจะยุบสภาฯช่วงนี้หรือเดือนธันวาคมก่อนปีใหม่หรือหลังปีใหม่นั้น

 

นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า ยุบสภาช่วงไหน อยู่ที่การตัดสินใจของรัฐบาล เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ทุกคนก็พร้อมกันอยู่แล้ว พรรคชาติพัฒนากล้าก็พร้อมเต็มที่อยู่แล้ว ชัดเจนเมื่อไหร่ก็ลงสู่สนามเลือกตั้งกัน พรรคชาติพัฒนากล้ามั่นใจจะได้ ส.ส.มากกว่าเดิมแน่นอน มั่นใจว่าดีกว่าเดิม ดีกว่าเดิมเยอะ

 

ดูจากผลสำรวจ ดูจากผลงานต่างๆ เที่ยวนี้พรรคชาติพัฒนากล้าจะเข้มแข็งขึ้นจะได้มีโอกาสทำงานให้กับพี่น้องประชาชน เพราะจริงๆแล้เราอยากจะเข้าไปทำงาน ในเรื่องของเศรษฐกิจ เพราะว่าตอนนี้เป็นปัญหาจริงๆที่จะต้องไปแก้ไขกัน นโยบายกับบุคลากรของพรรคชาติพัฒนากล้ามีความพร้อม มีความมั่นใจ

 

"ประมาณช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้พรรคชาติพัฒนากล้าจะเปิดตัวนโยบายพรรคฯ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจว่า “ ของจะไม่แพงต้องทำอย่างไร ทุกคนจะต้องมีงานทำต้องทำอย่างไร ทุกคนจะต้องมีเงินกันต้องทำอย่างไร"

นายสุวัจน์ กล่าวถึงเรื่องโพลแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และพรรคการเมือง ว่าก็สะท้อนความรู้สึกนึกคิด พรรคการเมืองก็ต้องไปปรับยุทธวิธีให้เหมาะสม การทำโพลก็เป็นวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง ต่างประเทศเวลาจะเลือกตั้ง เรื่องการเมืองพรรคการเมืองก็ใช้โพลเพื่อที่จะมาจัดทำนโยบาย และมาปรับกำลังภายในพรรคให้เหมาะสมก็ต้องฟังและมาปรับ อย่างตอนนี้โพลต่างๆที่ออกมา พรรคชาติพันากล้า ก็น้อมรับแล้วก็นำมาศึกษาว่าประชาชนเป็นห่วงเรื่องอะไร และอยากเห็นการเมืองแนวไหน อยากเห็นเศรษฐกิจแบบไหนเราก็มาทำในสิ่งที่สะท้อนออกมาจากการทำโพล

 

อย่างเที่ยวนี้เราถึงมั่นใจว่าปัญหาความเจ็บปวดและสิ่งที่พี่น้องประชาชนอยากเห็นมากก็คือนโยบายเศรษฐกิจการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนากล้า มั่นใจ และมั่นใจในคนของเรา มั่นใจในนโยบาย ต้นเดือนธันวาคมนี้กำหนดนโยบาย


ผู้สื่อข่าวถามถึงช่วงนี้มีคนหลายเข้าพบบ่อย โดนเฉพาะการพบกันกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยมีอะไรเซอร์ไพร์สอีก นายสุวัจน์ฯก่อนกล่าวถึงกับหัวเราะชอบอกชอบใจว่า ไม่มีอะไร นายอนุทินฯกับตนสนิทกันมานาน ตั้งแต่สมัยพรรคชาติพัฒนา ตอนพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรคฯ

 

คุณพ่อนายอนุทินฯ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นผู้ใหญ่ในพรรค และเป็นเพื่อนกับพล.อ.ชาติชายฯ ตอนนั้นก็เริ่มชีวิตการเมืองด้วยการเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่พรรคชาติพัฒนาและตอนหลังนายอนุทินฯก็เติบโตพรรคชาติพัฒนา ฉะนั้นมีความสนิท มีความคุ้นเคย เพียงแต่วันนี้พอดีมีวงดนตรีจากต่างประเทศ วงแพตเตอร์เป็นนักดนตรีรุ่นเก่า ใครๆก็ต้องรู้จักก็เลยไปเจอกันที่งานก็เลยนั่งโต๊ะเดียวกันก็ฟังเพงนึกถึงความหลังกัน ไม่มีการเมือง

 

ส่วนหลังการเลือกตั้งจะเป็นรัฐบาลผสมหรือรัฐบาลพรรคเดียวนั้น  นายสุวัจน์ฯตอบว่า ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง แต่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ที่ผ่านมาเราก็มีรัฐบาลผสมตลอด จะผสมกันอย่างไรก็แล้วแต่ตนคิดว่าต้องผสมกันให้ถูกสัดถูกส่วน คือผสมกันให้เกิดเสถียรภาพ และผสมกันให้เกิดนโยบายที่ดีสามารถมาแก้ไขปัญหาประเทศได้

 

อันนี้สำคัญ 2 เรื่อง ผสมกันให้เกิดนโยบายที่ดีในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และผสมกันให้เกิดเสถียรภาพ เพราะปัญหาของประเทศใน 4 ปีข้างหน้านี้ ตนว่าเราจำเป็นมากๆที่ต้องได้การเมืองแบบมืออาชีพ มืออาชีพทางด้านเศรษฐกิจ และได้การเมืองที่มีเสถียรภาพ ต่อเนื่องถึงจะดึงนักลงทุนกลับมาได้ ถึงจะสร้างความมั่นใจและสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่รุมเร้าอยู่ที่เป็นปัญหามากๆ