บ่ายวันที่ 16 ตุลาคม 2565 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายเทวัญ ลิปตพัลล เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคชาติพัฒนา รองหัวหน้าพรรค นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค พ.อ.วินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรค ร่วมแถลงข่าวหลังจากการประชุมใหญ่สามัญของพรรคชาติพัฒนากล้า
นายสุวัจน์ กล่าวว่า การประชุมใหญ่พรรคมีวาระสำคัญ ดังนี้ 1.แต่งตั้งที่ปรึกษาพรรค พ.อ.วินัย สมพงษ์ และ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล 2.รับทราบการลาออกจากกรรมการบริหารพรรคของ นายสมัคร ป้องวง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค
3.รับทราบการลาออกของหัวหน้าสาขาพรรคภาคกลางและภาคเหนือจำนวน 2 ท่าน ทำให้คณะกรรมการสาขาทั้งหมดต้องสิ้นสุดไปด้วย ก็จะต้องให้มีการเลือกตั้งใหม่แทนภายใน 60 วันนับจากวันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองได้แจ้งให้ทราบ
4.เรื่องสำคัญคือ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ สืบเนื่องจากวันนี้ในที่ประชุม หัวหน้าพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ได้ขอลาออก ด้วยเหตุผลที่ว่า ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองเตรียมตัวเข้าสู่สนามเลือกตั้ง และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ได้ออกแนวทางปฏิบัติมาหลายเรื่อง และตนเองก็ได้รับหน้าที่นี้มาแล้ว 2 สมัยรวม 4 ปี
“ก็อยากที่จะให้ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารของพรรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของบ้านเมืองในปัจจุบัน เพื่อให้พรรคชาติพัฒนากล้า ประสบความสำเร็จและมีเวลาเพียงพอ เพื่อจะได้เข้าไปทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อหัวหน้าพรรคลาออกมีผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้งชุดสิ้นสภาพ จึงได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันนี้”
นายสุวัจน์ กล่าวว่า โครงสร้างที่สำคัญของพรรคในลักษณะ 3 ประสาน ที่ได้เกิดขึ้นในวันนี้ พรรคชาติพัฒนากล้า ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาของประเทศที่กำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน คือ ปัญหาวิกฤตด้านเศรษฐกิจและวิกฤตด้านการเมือง ที่มีความขัดแย้งและขาดเสถียรภาพ
พรรคชาติพัฒนากล้ามีความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะถึง คือ ทางออกของประเทศ และเป็นความหวังของประชาชนว่าวิกฤตต่างๆ จะลุล่วงไปได้
“จึงได้วางบทบาทที่สำคัญคือ หัวหน้าพรรค คุณกรณ์ จะรับผิดชอบและโฟกัสในเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ โดยมีคณะที่ปรึกษาและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เข้าช่วยสนับสนุนการทำงาน คือ ท่านประธานที่ปรึกษา นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีพลังงานและอดีตรัฐมนตรีอุตสาหกรรม และที่ปรึกษาอีกท่านคือ พ.อ.วินัย สมพงษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้งท่านประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ ท่านกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ”
นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีความมั่นใจด้วยประสบการณ์ ด้านการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในอดีต ของหัวหน้าพรรค และของทีมเศรษฐกิจ ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรค จะสามารถนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจ และได้รับความเชื่อถือจากพี่น้องประชาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประเทศได้สำเร็จเรียบร้อย
ขณะเดียวกันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการเมือง โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมือง และการเสริมสร้างความร่วมมือทางการเมือง เพื่อให้การเมืองมีเสถียรภาพ และเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจให้สำเร็จนั้น อดีตหัวหน้าพรรค และปัจจุบันเป็นเลขาธิการพรรค เทวัญ ลิปตพัลลภ จะเป็นผู้รับผิดชอบภารกิจด้านการเมืองการขยายฐานการเมืองของพรรค การสรรหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์รวมทั้งคนรุ่นใหม่ ที่จะมาทำงานการเมืองให้กับพี่น้องประชาชน
รวมทั้งการเสริมสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมือง เพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ เพราะท่านเป็นอดีตส.ส.มาแล้วถึง 4 สมัย และเป็นอดีตรัฐมนตรีด้วยแล้ว ก็เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคการเมืองต่างๆ รวมทั้งรองหัวหน้าพรรค นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ซึ่งก็เป็นอดีตส.ส.มาถึง 3 สมัย และรองหัวหน้าพรรค นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ซึ่งเป็นอดีตส.ส.มาถึง 2 สมัย ร่วมกันเป็นทีมงานทางด้านการเมืองของพรรคที่เข้มแข็ง
ฉะนั้น พรรคชาติพัฒนากล้า จะได้วางโครงสร้างผู้รับผิดชอบหลักไว้ 2 ส่วนคือ 1.โครงสร้างทางด้านเศรษฐกิจ 2.โครงสร้างทางด้านการเมือง ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว คือ หัวหน้าพรรค จะรับผิดชอบและโฟกัสหลักด้านเศรษฐกิจ อดีตหัวหน้าพรรคและปัจจุบันเลขาธิการพรรค เทวัญ จะรับผิดชอบและโฟกัสหลักด้านการเมือง
“ส่วนตัวผมนั้น ในฐานะที่เป็นประธานพรรค ก็จะใช้ประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ ที่เป็นรัฐมนตรีว่าการมาแล้ว 7 กระทรวง และอดีตรองนายกรัฐมนตรี และประสบการณ์ทางการเมือง 35 ปีที่ผ่านมา ก็จะดูแลภาพรวมในด้านนโยบาย ด้านเศรษฐกิจและการเมือง ของชาติพัฒนากล้า ให้ประสบความสำเร็จ”
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นการประสานพลัง 3 ประสาน คือ พลังของประสบการณ์ พลังของเศรษฐกิจ และพลังของการเมือง เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้พรรคชาติพัฒนากล้าประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง และสามารถเข้าไปทำงานในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ให้ประสบความสำเร็จ และนำพาประเทศชาติให้หลุดพ้นจากวิกฤตการณ์ต่างๆ ไปได้ด้วยความเรียบร้อย
ด้าน นายกรณ์ กล่าวว่า คนไทยต้องรวย เศรษฐกิจต้องดี ชาติจะพัฒนาได้ ต้องกล้าเปลี่ยน เนื่องจากปัจจุบันด้วยสภาพปัญหาของประเทศไทย หลายคนตั้งคำถามว่า คนไทยกำลังจนลงใช่ไหม รายได้ที่ขึ้นตามไม่ทันเงินเฟ้อหรือเปล่า กินข้าวแต่ละมื้อเติมน้ำมันแต่ละครั้งรู้สึกเหมือนถูกสูบเงินในกระเป๋า ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องกล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศใหม่ทั้งระบบต้องกล้าคิดในเรื่องที่คนอื่นไม่เคยคิด เราต้องสร้างงานใหม่ๆ นับล้านตำแหน่ง งานแห่งอนาคตที่จะสร้างรายได้ให้คนไทย
“ผมเชื่อว่าคนไทยมีโอกาสที่ดีกว่านี้ได้ เป็นมนุษย์ทองคำ เหมือนคนในรุ่นผมเป็นได้ เหมือนสมัยผมกลับเมืองไทยมาตั้งบริษัทใหม่ๆ แค่ต้องมีความกล้า ที่จะเริ่มและลงมือทำ คนไทยรวยได้ ชาติพัฒนาได้ ต้องกล้า เพราะพรรคชาติพัฒนากล้า กล้าด้วยประสบการณ์ ชาติพ้นวิกฤติ” หัวหน้าพรรค กล่าวว่า
ด้าน นายเทวัญ กล่าวว่า วันนี้การเมืองที่มีเสถียรภาพหมายถึง เศรษฐกิจของประเทศก็จะดีขึ้น ฉะนั้น วันนี้การเตรียมความพร้อมของพรรคชาติพัฒนากล้า คือ เข้ามาสู่จุดที่เรียกว่าสมบูรณ์แบบที่สุด เรามีท่านผู้มีประสบการณ์หลายๆ ด้านไม่ว่าประสบการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ ประสบการณ์ทางด้านการเมือง มีหัวหน้าพรรคที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ
สำหรับตนจะดูแลรับผิดชอบในส่วนของ เสถียรภาพดูแลในส่วนของการเมือง ที่จะต้องประสานกับทุกฝ่ายการเมืองพรรคการเมืองทุกอย่างไปได้ดี เศรษฐกิจก็จะไปได้ดี โดยเฉพาะวันนี้เราได้บุคลากรส่วนหนึ่งมาจากพรรคกล้าที่มารวมกับเรา ก็เป็นบุคลากรที่เป็นคนรุ่นใหม่มาเติมในส่วนที่พรรคชาติพัฒนามีอยู่แล้วแต่ยังขาดบางส่วนก็มาเติมทําให้มันเต็ม ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีได้บุคลากรรุ่นใหม่ทั้งสองพรรคมารวมกัน
“วันนี้หลังจากที่พรรคได้มีการปรับปรุงรีแบรนด์หลายๆ อย่างแล้วพรรคชาติพัฒนากล้า หลังจากนี้เราจะเดินเข้าไปสู่สถานการณ์เลือกตั้งที่สมบูรณ์แบบและมีความพร้อมที่สุด” เลขาธิการพรรค กล่าว
ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ของพรรคชาติพัฒนากล้าในตำแหน่งต่างๆ ที่สำคัญ ดังนี้
1.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค
2.นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานที่ปรึกษาพรรค
3.พันเอกวินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรค
4.นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ
5.นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค
6.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค
7.นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค คนที่ 1
8.นายประสิทธิ์ ตันประเสริฐ รองหัวหน้าพรรค คนที่ 2
9.นายดล เหตระกูล รองหัวหน้าพรรค คนที่ 3
10.นายปกครอง ผาสุขยืด รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4
11.นายสุเมธ ศรีพงษ์ รองหัวหน้าพรรค คนที่ 5
12.พ.ต.อ.พณาเจือเพ็ชร์ กฤษณะราช รองหัวหน้าพรรค คนที่ 6
13.นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค คนที่ 7
14.นายอดุลย์ เลาหพล รองหัวหน้าพรรค คนที่ 8
15.นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค คนที่ 9
16.นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองหัวหน้าพรรค คนที่ 10
17.นายสมบัติ กาญจนวัฒนา รองเลขาธิการพรรค คนที่ 1
18.นายอรัญ พันธุจินดา รองเลขาธิการพรรค คนที่ 2
19.พลตรีธชา จินตวร รองเลขาธิการพรรค คนที่ 3
20.นายองอาจ พฤกษ์พนาเวศ รองเลขาธิการพรรค คนที่ 4
21.ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค คนที่ 5
22.นางอัญชลี บุสสุวัณโณ เหรัญญิกพรรค
23.นายนนทรัฐ ขจีกุล นายทะเบียนสมาชิกพรรค
24.นางเยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรค
25.นางมสารัตน์ อื้อศรีวงศ์ รองโฆษกพรรคคนที่ 1
26.น.ส.ดวงทิพย์ ปานรักษา รองโฆษกพรรคคนที่ 2
27.นางบุษรา เสนะวีณิน กรรมการบริหารพรรค
28.นายสหพล กาญจนเวนิช กรรมบริหารพรรค
29.นางวันเพ็ญ สุวัฒโนดม กรรมการบริหารพรรค
30.นายศุภรัศมิ์ ตัณฑเศรณีวัฒน์ กรรมการบริหารพรรค
31.นายอนุชา ศิริโภคานนท์ กรรมการบริหารพรรค
32.ดร.แวววรรณ ก้องไตรภพ กรรมการบริหารพรรค
33.นายพุทธิพงษ์ ธีรธรรมรัตน์ กรรมการบริหาร
34.นายประสิทธิ์ ช่วยสงฆ์ กรรมการบริหารพรรค