วันนี้ (14 ธ.ค.65) ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการดีลควบรวมพรรค และการย้ายออกของคนในพรรคสร้างอนาคตไทย ว่า พรรคสร้างอนาคตไทยยังเดินหน้าทางการเมืองเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“ผมขอย้ำว่า พรรคไม่ได้มีปัญหาใดๆ และไม่ได้เป็นไปตามกระแสข่าวต่างๆ พรรคอยู่ในการปรับยุทธศาสตร์ให้สอดรับกับสถานการณ์”
ส่วนกรณีการพูดคุยเจรจากับพรรคการเมืองเรื่องการรวมพรรคตามที่เป็นข่าวนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งคาดว่าพรรคจะมีการเปิดเผยข่าวดีในเร็วๆ นี้
ส่วนกรณีการลาออกของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรค และประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ นั้น เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ยืนยันว่า เป็นการแยกจากกันด้วยดี และมีความเข้าใจที่ดีต่อกัน ด้านการบริหารโครงสร้างที่วางไว้มีความพร้อมรับการปรับเปลี่ยนแปลง และไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการทำงานของพรรคทั้งในส่วนภาพรวม และในพื้นที่ภาคใต้
ทั้งนี้ เนื่องจากพรรคมีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถที่ทำงานร่วมกับพรรคยังเดินหน้าตามทิศทางของพรรคต่อไป และมีผู้ที่จะมารับผิดชอบงานในส่วนของนายนิพิฏฐ์ อยู่แล้ว ซึ่งไม่ทำให้การดำเนินงานของพรรคเกิดการสะดุด หรือมองว่าเป็นอุปสรรคปัญหาใดๆ อีกทั้งหากปรับยุทธศาสตร์เรียบร้อยพรรคจะเข้มแข็งมากขึ้นในพื้นที่ภาคใต้
“การลาออกของ คุณนิพิฏฐ์ ผมมองว่าก็เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งพรรคก็ยอมรับในการตัดสินใจ และยืนยันว่าไม่ได้มีข้อขัดแย้งใดๆ กับ คุณนิพิฏฐ์ สำหรับตัวผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคใต้ ในตัวหลักยังดำเนินการทางการเมืองร่วมกันต่อไป” นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า ด้วยผลของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ที่ได้กำหนดเลือกตั้งบัตร 2 ใบ และสูตรหาร 100 ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเห็นการปรับเปลี่ยนในยุทธศาสตร์ทางการเมืองของหลายพรรค เพื่อให้มีการทำการเมืองสอดรับกับกติกาใหม่ พรรคการเมืองต่างๆ รวมถึงพรรคสร้างอนาคตไทยก็ต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ทางการเมืองเช่นกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตนได้เคยคาดการณ์ไว้
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวย้ำว่า เป้าหมายของพรรคสร้างอนาคตไทยยังคงชัดเจน นั่นคือ ความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเมืองที่เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน และการกอบกู้ ฟื้นฟู และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสร้างอนาคตให้กับลูกหลานไทยให้สำเร็จต่อไป