“สุดารัตน์”ดัน digital society ภายในปี 70 ชูพัฒนาคน ปฏิวัติการศึกษา

22 ธ.ค. 2565 | 00:51 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2565 | 08:58 น.

"สุดารัตน์"ชี้เป้าหมาย"ไทยสร้างไทย"ดัน sustainable country และ digital society เกิดขึ้นในภายในปี 2570 ย้ำต้องเริ่มจากพัฒนาคน- ปฏิวัติการศึกษา สร้างรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ร่วมแสดงทรรศนะในงานเสวนา หัวข้อ" NEXT STEP THAILAND 2023 ทิศทางแห่งอนาคต" จัดโดยเครือเนชั่น โดยกล่าวว่า เป้าหมายของพรรคไทยสร้างไทย คือ sustainable country และ digital society เกิดขึ้นให้ได้ภายในปี 2570 แนวทางที่จะพัฒนาในอนาคตต้องเริ่มจากการพัฒนาคน ปฏิวัติการศึกษา โดยต้องเน้นให้นักเรียนค้นพบตัวเองและมีการลงทุนสร้างนวัตกรรมในการศึกษาทุกโรงเรียน


การสร้างพลังอำนาจให้กับประชาชน โดยการปลดล็อกกฎหมาย ปลดล็อกรัฐราชการ และการคอรัปชั่น เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเปิด เพิ่มขีดความสามารถโดยการทำ thailan token ให้คนเข้าสู่ระบบ

 

รวมถึงการพร้อมรองรับวิกฤติโลกพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และรัฐต้องเข้าไปช่วยเพื่อสร้างประเทศที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นหลัง 
 

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

ส่วนการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ต้องอาศัยความตั้งใจจริงของผู้นำ และควรแก้ปัญหาโดยใช้ดิจิทัลและนวัตกรรม โดยใช้ความเข้าใจและเชื่อในนวัตกรรมนั้นด้วย การพัฒนาจะต้องเริ่มที่ 3 อย่าง

 

1.การพัฒนาคน ปฏิวัติการศึกษา ลงทุนในการพัฒนานวัตกรรม Upskill-Reskill แรงงาน เริ่มจากการใส่นวัตกรรมลงไปในการศึกษา และการทำงานร่วมกันระหว่างเอกชน

 

2.ต้องสร้างพลังอำนาจให้กับประชาชนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ปลดล็อกกฏหมายสร้างอำนาจประชาชน โดยการนำเสนอเข้าสภา โดยการแขวนหรือพักใช้กฏหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของประชาชนและ SME เช่น ขอ อย. ขอใบอนุญาตต่างๆ หรือปิดกั้นความสามารถของคนรุ่นใหม่

 

ปลดล็อกรัฐราชการ สร้าง KPI ใหม่ และใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมมาให้ประชาชนโหวต สร้าง Digital Goverment อย่างเต็มรูปแบบ หรือรัฐบาลดิจิทัล

 

ใช้ Citizen-Centric Services สร้างเหรียญดิจิทัลของประเทศไทย (Thailand Token) การทำดีต้องได้ดี  เช่น แจ้งข้อมูลแหล่งชำรุดทรุดโทรม เหตุร้าย จะได้ Token ตอบแทน

3.ประเทศไทยต้องสร้างความพร้อม ในการรองรับวิกฤตโลก และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส Digitize จุดแข็งในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ เช่น ท่องเที่ยวและบริการ , สุขภาพและวิถีชีวิต, การเกษตรและอาหาร, ยั่งยืนด้วย BCG

 

นำโซลาร์เซลล์มาใช้ตามบ้านเรือน, เร่งสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า สถานีชาร์จ, เร่งนโยบายให้คนไทยเข้าถึงรถ EV และการปรับปรุงโครงสร้างภาษี

 

ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟม มีการสนับสนุนและพัฒนากลไกคาร์บอนเครดิตให้เหมาะสมกับประเทศไทย