“อุตตม”ชวนให้ความสำคัญกับเด็ก ผลักดันเพิ่มงบการศึกษา ยกระดับสวัสดิการ

14 ม.ค. 2566 | 03:30 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ม.ค. 2566 | 10:40 น.

วันเด็กแห่งชาติ 2566 “อุตตม” ชวนผู้ใหญ่ให้ความสำคัญพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิด พร้อมผลักดันเพิ่มงบการศึกษายกระดับให้เป็นรัฐสวัสดิการ สร้างโอกาสที่เท่าเทียมให้เด็กไทยทุกคน  


วันนี้ (14 ม.ค.66) ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2566 โดยระบุว่า วันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมวันเด็กแห่งชาติ เป็นอีกวันที่เด็กไทยทั่วประเทศต่างเฝ้ารออย่างตื่นเต้นที่จะได้ทำกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน เช่นเดียวกับพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ก็อยากเห็นลูกหลานมีความสุข แสดงออกถึงความรักความห่วงใยทีมีต่อเด็กและเยาวชนของเรา 

พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ย่อมอยากเห็นเยาวชนไทยเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ มีชีวิตที่ดีทัดเทียมกันทั่วหน้า โดยการที่จะเป็นไปตามที่เราหวังได้นั้น ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องทุ่มเทเอาใจใส่บ่มเพาะเด็กไทยตั้งแต่แรกเกิด เฉกเช่นเดียวกับการปลูกต้นไม้ที่ต้องมีต้นกล้าที่ดีจึงจะได้ไม้ใหญ่ที่ให้ผลผลิตดี 

มีงานวิจัยมากมายที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเยาวชนโดยเริ่มตั้งแต่ยังเป็นเด็กแรกเกิด เช่น  James J. Heckman นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ในปี 2000 บอกว่าการลงทุนในเด็กอายุ 0-3 ขวบ จะให้ผลตอบแทนในระยะยาวต่อสังคมสูงที่สุด 

                  “อุตตม”ชวนให้ความสำคัญกับเด็ก ผลักดันเพิ่มงบการศึกษา ยกระดับสวัสดิการ

งานวิจัยของ García et al. (2016) ชี้ว่า ผลตอบแทนของการลงทุนพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดจะให้ผลตอบแทนถึงร้อยละ 13.7 ต่อปี และมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน (Benefit/cost ratio) สูงถึง 7.3 เท่า

ทั้งนี้การลงทุนพัฒนาเยาวชนที่ดีที่สุด คือ การลงทุนด้านการศึกษา เพราะการศึกษาคือประตูสู่ความสำเร็จในการสร้างความเท่าเทียมกันของสังคม เปิดโอกาสในการยกระดับทรัพยากรมนุษย์ในภาพรวมประเทศไปพร้อมกัน

สอดคล้องกับความคิดของอาจารย์สุวิทย์ เมษินทรีย์ ที่เสนอว่าประเทศไทยต้องกล้าเปลี่ยนระบบการศึกษาไปสู่ “รัฐสวัสดิการ” โดยเมื่อเราสามารถสร้างความเท่าเทียมด้านการศึกษาได้ก็จะก่อเกิดระบบเศรษฐกิจ สังคม ที่มั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน  

“ผมขอเสนอว่า ผู้ใหญ่ทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันผลักดันแนวคิดการจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อการพัฒนาอย่างเท่าเทียมทั่วถึงโดยเร็ว รวมทั้งปฏิรูปการศึกษาประเทศกันอย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยทุกคนทุกพื้นที่เติบโตขึ้นเป็นพลังของชาติในอนาคตได้อย่างแท้จริง” ดร.อุตตม กล่าว