ศาลรธน.รับคำร้อง กกต. ขอตีความ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ.2562

01 ก.พ. 2566 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.พ. 2566 | 09:06 น.

ศาลรธน.รับคำร้อง กกต. ขอตีความ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 สั่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร - เลขาธิการวุฒิสภา-เลขาธิการกฤษฎีกา ส่งข้อมูลใน 15 วัน

วันนี้ (1 ก.พ.66) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมปรึกษาคดีสำคัญและเป็นที่น่าสนใจ โดยเป็นคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือ ผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ประกอบด้วย 

1.กรณีการวินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ มาตรา 55 วรรคหนึ่ง 2.กรณีการสั่งให้นับคะแนนเลือกตั้งใหม่ และการสั่งให้ออกเสียงลงคะแนนใหม่ ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ มาตรา 105 และ มาตรา 116 และ 3.กรณีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ มาตรา 20

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 210  วรรคหนึ่ง (2) บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่และอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระ 

การยื่นคำร้อง ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (1) และพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 44 ประกอบมาตรา 7(2) คือ ต้องเป็นปัญหา ซึ่งเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจที่เกิดขึ้นแล้ว และในกรณีที่ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับหน่วยงานใดให้หน่วยงานนั้นเป็นผู้มีสิทธิยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ 

เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏว่า กกต. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ส่งปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้ร้อง ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 44 ประกอบ มาตรา  7 (2)  

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา อาศัยอำนาจตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 27 วรรคสาม ให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการวุฒิสภา และ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา จัดส่งข้อมูลพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด โดยให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ