วันนี้(28 ก.พ.66) ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้แถลงโจมตีนโยบายกัญชา และการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่อ้างว่ามีเงินทอน 3 หมื่นล้านบาท ของพรรคภูมิใจไทย (ภท.)
ก่อนหน้านั้น นายชูวิทย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ต้องเผารังหนู โดยนำนักเรียนมาจำนวน 6 คน แสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยการตัดต้นกัญชา พร้อมกับให้เด็กนักเรียนเล่าว่า เห็นเพื่อนตนเองสูบกัญชาเพราะหาซื้อง่าย ซึ่งนายชูวิทย์ระบุว่า ตนเองไม่ได้คัดค้านนโยบายกัญชา แต่คัดค้านนโยบายกัญชาเสรีที่มีผลต่อเยาวชน สามารถหาซื้อได้ง่าย และตำรวจก็ไม่ยอมจับเนื่องจากไม่มีการออกพ.ร.บ.กัญชง กัญชา แต่เป็นการลักไก่ด้วยการออกประกาศกระทรวง ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้อย่างรัดกุม
ตัวแทนผู้ปกครองของเยาวชนที่ นายชูวิทย์ พามาร่วมการแถลงข่าวครั้งนี้ ได้แสดงจุดยืนคัดค้านกัญชาเสรี และยืนยันว่า ไม่ได้มาโดยการถูกบังคับแต่อย่างใด
ขณะที่ตัวแทนเยาวชนได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้กระทรวงสาธาณสุข(สธ.) มีความชัดเจนเรื่องการควบคุมการใช้กัญชา รวมถึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงปัญหา และตระหนักถึงผลกระทบของการใช้กัญชาโดยไม่ถูกวิธี
โดยเฉพาะกรณีการใช้อย่างไม่ถูกวิธีในหมู่เด็กและเยาวชน ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อการพัฒนาการทางสมอง ในการเรียนรู้ต่างๆ รวมถึงต้องป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดว่า สามารถนำกัญชาในการประกอบอาหารได้
นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงกระทรวงคมนาคมที่เรียกร้องให้ตนเองตอบหนังสือกลับภายใน 15 วัน ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า จะมอบข้อมูลให้คนที่ตนสงสัยได้อย่างไร เพราะก่อนหน้าได้มอบข้อมูลให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และนายกรัฐมนตรีไปแล้ว จึงอยากให้ รมว.คมนาคม ถามข้อมูลดังกล่าวจากนายกฯ
“จากนี้ผมจะตระเวนไปทั่วประเทศ และ จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ประชาชน และให้ประชาชนตัดสินใจ หากเห็นด้วยกับนโยบายกัญชา ก็ให้เลือกพรรคภูมิใจไทย แต่หากไม่เห็นด้วยก็เลือกพรรคการเมืองพรรคอื่น ซึ่งผมไม่มีส่วนได้เสียอะไรเพราะผมไม่ได้ลงเลือกตั้ง”
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เปิดเผยฝ่ายการเมืองที่อยู่เบื้องหลังตนเอง อย่างเช่นที่ตนกล้าเปิดเผยรายชื่อว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดอยู่เบื้องหลัง นายอนุทิน
ส่วนกรณีที่มีการเปิดเผยว่าตนขายร้านกัญชาเสรี แล้วมาโจมตีนโยบายกัญชานั้น ยอมรับว่า ขณะนี้สามารถขายได้ แล้วทำไมตนจะเปิดขายเองไม่ได้ แต่ภายหลังทราบว่ามีโทษและมีผลต่อเยาวชน จึงเลิกขาย