เส้นทาง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” กล่องดวงใจของ  “เนวิน”

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ชื่อเล่นโอ๋ น้องชายร่วมสายเลือดกับ นายเนวิน ชิดชอบ และ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นาย ศักดิ์สยามเป็นคนพื้นเพจังหวัดสุรินทร์ บิดา และมารดา คือ นายชัย ชิดชอบ และนางละออง ชิดชอบ

ปลัดโอ๋ หรือ ปลัดอำเภอ ศักดิ์สยาม คือตำแหน่งสุดท้ายในงานข้าราชการ สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ก่อนที่นายศักดิ์สยาม จะก้าวเข้าสู่งานการเมือง ซึ่งระหว่างนั้น นายศักดิ์สยาม  ได้ร่วมกับ พ.ต.ต.เพิ่มพูน ชิดชอบ (ยศขณะนั้น) ร่วมก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น  ในปีพ.ศ. 2539 และได้ลาออกจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น ในปี พ.ศ. 2540

นายศักดิ์สยาม ลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) สังกัดพรรคพรรคชาติไทย ในปี พ.ศ. 2544 และ ในปี พ.ศ. 2548 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. สังกัดพรรคไทยรักไทย พร้อมได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอกโกวิท วัฒนะ จนกระทั่ง2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ในพ.ศ. 2550 เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบพรรค ในปี พ.ศ. 2549

ต่อมาในสมัยรัฐบาลของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายศักดิ์สยามได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง  ในยุคนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เมื่อวันที่17 ก.ย. 2552 ก่อนจะสมัครเข้าพรรคพรรคภูมิใจไทย และได้รับเลือกตั้งเป็น เลขาธิการพรรค เมื่อ 14 ต.ค. 2555 ได้ลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 15 ในปี พ.ศ. 2557 แต่การเลือกตั้งถูกสั่งให้เป็นโมฆะ

30 มี.ค. 2558 นายศักดิ์สยาม กลับมาเป็นผู้จัดการ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น ได้รับค่าตอบแทน ปีละ 400,000 บาท (มีแจ้งรายได้กับ ป.ป.ช.) และได้แจ้งเปลี่ยนที่ตั้งเป็นเลขที่ 30/2 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ซึ่งเป็นที่อยู่ของนายศักดิ์สยามตามบัตรประจำตัวประชาชน จากเดิม ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 229 ม.11 ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ และได้ใช้เงินสดเพิ่มทุนหจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น 3 ครั้ง เข้าบัญชีธนาคาร ธนชาติ เลข 4016051302 สาขาบุรีรัมย์ ชื่อ หจก.บุรีเจริญ รวม 119 ล้านบาท ในปีเดียวกัน

นายศักดิ์สยาม กลับมาถือหุ้นใหญ่หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น อีกครั้ง ร่วมกับนายเอกราช ชิดชอบ ในปีพ.ศ. 2560 และได้ลาออกจากผู้จัดการ พร้อมโอนหุ้น ให้นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ จำนวน 119.4 ล้านบาทโดยไม่พบการเสียภาษี ทั้งผู้รับและผู้โอน และยังใช้ที่อยู่ของนายศักดิ์สยาม เป็นที่ตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2561 และศุภวัฒน์ ได้เพิ่มทุนบริษัท อีก 40 ล้านบาท เมื่อ 30 เม.ย. 2562

25 พ.ค. 2562  นายศักดิ์สยาม ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ในขณะเดียวกัน การดำเนินการเรื่องเปลี่ยนแปลงที่ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น ได้เกิดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย. 2562

โดยมีการประชุมหุ้นส่วนที่บ้านเลขที่ 30/2 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเปลี่ยนที่ตั้ง หจก. เมื่อวันที่5 มิ.ย. และ แจ้งเปลี่ยนที่ตั้งจากเลขที่ 30/2 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ มาเป็นเลขที่ 30/17 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2562 ก่อนที่ นายศักดิ์สยาม จะได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562

7 ก.พ. 2566 ฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ปมซุกหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่นกว่า 100 ล้าน

3 มี.ค. 2566 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ นายศักดิ์สยาม หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยสามารถยื่นชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

ทั้งนี้ หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ได้งานของกระทรวงคมนาคม รวม 44 โครงการ เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 563,850,276 บาท ปี 2564 ได้รับงานของกระทรวงคมนาคม รวม 38 โครงการ เป็นเงินงบ 657,021,414 บาท รวม 2 ปี เกือบ 1,200 ล้านบาท