วันนี้ (21 มี.ค.66) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี่ที่ตำรวจ ปคบ. บุกจับ “นารา เครปกะเทย” จากคดีฉ้อโกง หลอกขายกล่องสุ่ม สร้างความเสียหายแก่ประชาชนนั้น ตนขอฝากไปถึงกระทรวงยุติธรรม ว่า การที่เราจะให้ความยุติธรรม ต้องให้ทั้งทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายถูกกล่าวหา และฝ่ายผู้เสียหาย การจัดการไกล่เกลี่ยต้องดูข้อเท็จจริงก่อน
"วันนี้ผมต้องฝากไปยังอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในฐานะนายทะเบียนที่กำกับดูแลเรื่องนี้ ว่า ถ้ามีศูนย์ร้องทุกข์ส่งเรื่องกล่องสุ่มเครปนารา ที่มีการไม่จ่ายเงินผู้เสียหาย ท่านต้องดูก่อนว่า ท่านมีอำนาจไกล่เกลี่ยตาม พรบ.ไกล่เกลี่ย หรือไม่ เพราะในหมวด 3 มาตรา 35 ระบุว่า การไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญา ทำได้คือ ความผิดยอมความได้ และความผิดระบุโทษ ตามมาตรา 390 -395 และมาตรา397"
นายสามารถ กล่าวว่า กรณีกล่องสุ่มนั้นเป็นความผิดตาม พรบ.การพนัน มีความผิดตามอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ ก็ไกล่เกลี่ยไม่ได้ ต่อมาในเรื่องของการชักชวน ตนได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายส่งมาว่า คุณนารา ได้มีการชักชวนให้ร่วมลงทุนโดยการโพสต์ลงสื่อออนไลน์ ซึ่งการชักชวนให้คนลงทุนโดยเสนอผลตอบแทนที่สูงกว่า เข้าข่ายความผิดตาม พรบ.การกู้ยืมหรือที่เรียกว่า แชร์ลูกโซ่
"กระทรวงยุติธรรม เขาให้ความยุติธรรมกับทุกคน ยุติธรรมค้ำจุนโลก ผอ.รับเรื่องร้องทุกข์ ก่อนจะต้องส่งเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ บัญชีแนบท้าย คือ แชร์ลูกโซ่ ท่านต้องสืบก่อนว่า การกระทำดังกล่าวนั้น เข้าความผิดตาม พรบ.กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ แต่ถ้าเป็นการฉ้อโกงประชาชน ก็เป็นบัญชีแนบท้ายอยู่แล้ว ในเรื่องของมูลค่าความเสียหายกับจำนวนผู้เสียหาย"
นายสามารถ กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้มีผู้เสียหายติดต่อมาถึงตนกว่า 100 คน โดยตนจะพาผู้เสียหายไปยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 27 มี.ค. เวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล
รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้วยเพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือผู้เสียหายทุกมิติ ให้มากที่สุด และต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย โดยที่กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ เพราะถ้ากฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้ สังคมจะอยู่ได้อย่างไร