ชัดเจนแล้ว หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศยุบสภาเป็นที่เรียบร้อยโดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้ (20 มีนาคม 2566) สิ่งสำคัญที่เหล่า ส.ส. และผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องมีก่อนจะไปสู่การเลือกตั้งในครั้งหน้า นั่นก็คือ การเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 97 ระบุว่า
บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร...
(3) เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะเหตุยุบสภาระยะเวลา 90 วันดังกล่าวให้ลดลงเหลือ 30 วัน
กล่าวคือ กรณีที่มีการยุบสภาต้องเป็นสมาชิกพรรคนั้นเป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 30 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง
ช่องทางการรับสมัครสมาชิกพรรคการเมือง
เอกสารการประกอบการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
คุณสมบัติของผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
-มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
-มีสัญชาติไทยโดยการเกิด ในกรณีเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
-ติดยาเสพติดให้โทษ
-เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
-เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
-อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่
-วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
-อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
-ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
-เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 10 ปีนับถึงวันเลือกตั้งเว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
-เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
-เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
-เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตาม ก.ม.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา
ความผิดตาม ก.ม.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า ก.ม.ว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก ก.ม.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ก.ม.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
-เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง
-เป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกภาพสิ้นสุดลงยังไม่เกิน 2 ปี
-เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระในการใช้งบประมาณรายจ่าย
-อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
-เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มีการเสนอการแปรญัตติหรือการกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย
-เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
-อยู่ในระหว่างถูกสั่งห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
-ไม่เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นหรือผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองอื่น หรือผู้แจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองอื่น
พรรคการเมือง
การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
สำหรับพรรคการเมืองที่ต้องการจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดให้ส่งผู้สมัครที่ได้รับเลือกจากสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้นเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ขั้นตอนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง
-คณะกรรมการสรรหา ประกาศ วัน เวลา สถานที่ ในการสมัคร และประกาศให้สมาชิกทราบ
-คณะกรรมการสรรหาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร และส่งให้สาขาหรือตัวแทนของพรรคการเมือง
-สาขาพรรคการเมือง (ไม่น้อยกว่า 100 คน) หรือตัวแทนพรรคฯ (ไม่น้อยกว่า 50 คน) ประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น และให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ
-คณะกรรมการสรรหาพิจารณาเสนอความเห็นผู้สมัครแต่ละสาขาให้กรรมการบริหารพรรคการเมือง
-คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง พิจารณาให้ความเห็นชอบผู้สมัคร
-หัวหน้าพรรคการเมืองออกหนังสือรับรองส่งผู้สมัคร (ส.ส. 4/8)
การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ให้พรรคการเมืองจัดทําบัญชีรายชื่อส่งให้สาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด โดยคํานึงถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งจากภูมิภาคต่าง ๆ และความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง
ขั้นตอนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ
-คณะกรรมการสรรหากําหนด วัน เวลา สถานที่ รับสมัคร/เสนอชื่อบุคคลเป็นผู้สมัคร และแจ้งกรรมการ บริหารพรรคการเมือง หัวหน้าสาขา ตัวแทนฯ และประกาศให้สมาชิกทราบ
-กรรมการบริหารพรรคฯ หัวหน้าสาขา ตัวแทนฯ เสนอชื่อให้กรรมการสรรหา
-คณะกรรมการสรรหาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้สมัครฯ และจัดทําบัญชีรายชื่อไม่เกิน 100 รายชื่อ ส่งให้สาขาหรือตัวแทนฯ
-สาขาพรรคการเมือง (ไม่น้อยกว่า 100 คน) หรือตัวแทนพรรคการเมือง (ไม่น้อยกว่า 50 คน) ประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็น และให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ
-คณะกรรมการสรรหาพิจารณาเสนอความเห็น ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง
-คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองพิจารณา ให้ความเห็นชอบตามลําดับที่เหมาะสม
-หัวหน้าพรรคการเมืองส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ที่พรรคการเมืองจัดทําขึ้น (ส.ส. 4/21)