“อลงกรณ์”เสนอ 5 มาตรการป้องกันเหตุคลั่งกราดยิงหลังเกิดที่เพชรบุรี

23 มี.ค. 2566 | 12:05 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มี.ค. 2566 | 12:14 น.

“อลงกรณ์ พลบุตร”เสนอ 5 มาตรการ “ตัดไฟแต่ต้นลม”ป้องกันเหตุร้ายล่วงหน้าหลังคนร้ายคลั่งก่อเหตุยิงกราด มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายที่เพชรบุรี

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคู่กรณีและผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่งที่หมู่บ้านกรุงเพชรวิลล่า ตำบลต้นมะม่วง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรีนั้น 

วันนี้ ตนซึ่งเป็น อดีต ส.ส.เพชรบุรี มีบ้านพักอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 100 เมตร ได้เขียนข้อความในเฟซบุ๊ก และไลน์เสนอ 5มาตรการตัดไฟแต่ต้นลมเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเช่นนี้อีก โดยมีข้อความดังนี้ 

“ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับญาติ และครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์ที่เกิดในหมู่บ้านกรุงเพชรวิลล่า ตำบลต้นมะม่วง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี

และขอขอบคุณเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน สื่อมวลชนทุกแขนง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  

ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นบทเรียนที่เราจะร่วมกันป้องกันความปลอดภัยของประขาชนทุกครอบครัวมิให้เหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดเกิดขึ้นอีก

ผมข้อเสนอแนะมาตรการเชิงรุกอย่างน้อย 5 มาตรการ เป็นมาตรการตัดไฟแต่ต้นลมและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มกำลังความสามารถ

1.เร่งตรวจค้นกวาดล้างจับกุมอาวุธและยาเสพคิด โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพล กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดและธุรกิจสีเทา 

2.เร่งไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจากเหตุทะเลาะวิวาทบาดหมางขัดแย้ง ของคู่กรณีในชุมชนและหมู่บ้านเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม

3.อบต.และเทศบาล จัดทำฐานข้อมูลกลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นผู้ก่อเหตุร้ายในหมู่บ้านชุมชน โดยร่วมมือกับโครงการตำรวจชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสารวัตรกำนันในการดูแลกลุ่มเสี่ยง ทั้งการพัฒนาหาอาชีพ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและการติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด โดยหน่วยงานยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จะต้องช่วยสนับสนุนทะเบียนประวัติอาชญากรรมและข้อมูลต่างๆ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 

4.เพิ่มกล้องวงจรปิดและไฟแสงสว่างในชุมชนหมู่บ้าน ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง

5.ขอความร่วมมือสถานบริการที่จำหน่ายของมึนเมา โดยเฉพาะที่เปิดยามวิกาล ตรวจตรามิให้มีการนำอาวุธเข้ามาในสถานบริการอย่างเคร่งครัด 

การปัองกันเหตุล่วงหน้าจะเป็นมาตรการที่ดีที่สุด มิให้เหตุการณ์ใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นอีก เพื่อจะไม่เกิดเหตุการณ์ความเศร้าสลด เช่น กรณีล่าสุดและขอให้เป็นครั้งสุดท้ายในจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดอื่นๆ”