วันที่ 28 มี.ค. 2566 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีชุมนุมขัดขวางการรับสมัคร ส.ส. คดีดำ อ.231/2565 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายชานนท์ ขันทอง กับพวกรวม 13 คน ซึ่งเป็นมวลชนการชุมนุมของม็อบ กปปส. เป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ
อัยการโจทก์นำคดียื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2565 ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2556 เวลากลางวันจำเลยกับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันมีและใช้อาวุธ โดยข่มขู่ ประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ โดยใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง ขว้างปา ยิงลูกแก้ว หัวนอต ไม้หน้าสาม ก้อนซีเมนต์ตัวหนอน เข้าใส่เจ้าพนักงาน ถอยรถขนขยะชนประตู เพื่อเปิดทางแล้วปิดล้อมประตูทางเข้าที่ 1 และ 2 ของศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง
ก่อนบุกเข้าไปในภายอาคารกีฬาเวสน์ 2 ปิดล้อมอาคาร ขัดขวางมิให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่ รับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อระหว่างวันที่ 23-27 ธ.ค. 2556 เวลา 08.30-16.30 น. อันเป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวง-เขตดินแดง กทม.
ขอให้ลงโทษพวกจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58, 83, 90 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณกรรมการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 และพวกจำเลยได้ประกันตัว
ศาลพิเคราะห์เเล้ว การกระทำของ จำเลยทั้ง 13 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 วรรคสอง, 216, 365 (1) (2) ประกอบมาตรา 362, 364 พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 มาตรา 43 วรรคสอง (เดิม) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
การกระทำของ จำเลยทั้ง 13 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานร่วมกัน บุกรุกอสังหาริมทรัพย์และเคหสถาน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลัง ประทุษร้าย
โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุก คนละ 2 ปี เพิ่มโทษจำเลยที่ 2 หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 8 เดือน
จำเลยที่ 1-9 และที่ 11-13 ให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษ ให้หนึ่งในสี่
จำเลยที่ 10 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก จำเลยที่ 1 ที่ 3-9 และที่ 11-13 คนละ 18 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 24 เดือน จำคุกจำเลยที่ 10 มีกำหนด 16 เดือน
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มก่อเหตุรุนแรงโดยใช้หนังสติ๊กยิงหัวนอต ลูกแก้ว ลูกเหล็ก และขว้างปาก้อนอิฐ ก้อนซีเมนต์ตัวหนอน ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง เป็นต้น ใส่เจ้าพนักงานตำรวจที่รักษาความสงบเรียบร้อยในที่เกิดเหตุ จำเลยทั้ง13 ก็ควรเลิก ชุมนุมตามที่เจ้าพนักงานตำรวจแจ้งให้เลิก
แต่จำเลยทั้ง 13 กลับไม่เลิกชุมนุม แล้วยังบุกรุกเข้ามาในที่เกิดเหตุอีก พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงที่ไม่สมควรรอการลงโทษ ให้แก่จำเลยทั้ง 13 ริบของกลางทั้งหมดตามบัญชีท้ายฟ้อง
บวกโทษจำคุกจำเลยที่ 4 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 13530/2555จำนวน 3 เดือน และในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ คงที่ 13531/2555 จำนวน 3 เดือน ของศาลแขวงธนบุรี เข้ากับ คดีนี้เป็นจำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 24 เดือน
บวกโทษจำคุกจำเลยที่ 5 ที่รอการลงโทษ ไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 336/2555จำนวน 1 เดือน ของศาลแขวงพระโขนง เข้ากับคดีนี้เป็นจำคุกจำเลยที่ 5 มีกำหนด 19 เดือน นับโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ ต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สำหรับรายชื่อจำเลยทั้ง 13 คน ประกอบด้วย 1.นายชานนท์ ข้นทอง 2.นายเกียรติศักดิ์ จำชาติ 3.นายสมโภช ฤทธิ์สำแดง 4.นายชวลิต ถิรายันติกุล 5.นายรุจิภาส หรือวิชชุภาส หรือวรัท สุทธิโอภาส 6. นายนพคุณ ธนานิรมิต
7.นายสุวัฒน์ คำใบ 8.นายวิมล แถมพยัคฆ์ 9.นายสว่างชัย อธิคมพจน์ 10.นายณัฐพล มาลัยญาติ 11.นายนิพนธ์ รักษาบุตร 12.นายวิชิต แดงสวัสดิ์ และ 13. นางสาวภัณฑิรา หรือ นุชนภา ศรีแก้ว