วันนี้ (15 มิ.ย. 66) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล หลังพ้นตำแหน่ง ส.ส. ที่จะครบกรอบเวลาที่กำหนดในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ว่า เท่าที่ทราบจนถึง วานนี้ (14 มิ.ย.) นายพิธา ยังไม่มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินมายัง ป.ป.ช. แต่ยังมีเวลาถึงวันที่ 18 มิ.ย. 2566
ส่วน นายพิธา จะขอขยายระยะเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินออกไปอีกได้หรือไม่นั้น เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า ก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุสุดวิสัยที่จำเป็นจริงๆ ที่จะขอขยายระยะเวลาออกไป โดยจะสามารถขยายออกไปได้อีก 30 วัน แต่ป.ป.ช.ก็ต้องนำเหตุมาวิเคราะห์ว่า มีความจำเป็นอะไร และต้องดูเจตนาหากจะขอขยาย
“ถ้าโดยหลักของกฎหมายแล้ว เดิมเต็มที่ขยายได้ 30 วัน แต่ก็มีก็อกหนึ่ง ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน ซึ่งเราก็ไม่อยากให้ต้องใช้เหตุผลถึงขนาดนั้น เพราะคิดว่ามีเวลาพร้อมแล้ว อะไรต่างๆ ยื่นมา และการส่งเอกสารเพิ่มเติมก็สามารถทำได้ แต่เชื่อว่าน่าจะยื่นในเวลาที่กำหนด ไม่น่าจะขอขยายเวลาอีก”
ส่วนการยื่นรายการทรัพย์สินและหนี้สินครั้งนี้ ต้องชี้แจงรายละเอียดการโอนหุ้นไอทีวีหรือไม่ เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า ต้องดูว่าวันนี้ตัวทรัพย์สินฯ ของ นายพิธา เกี่ยวกับเรื่องหุ้นมีหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องยื่น เพราะให้ยื่นบัญชีกรณีพ้นจากหน้าที่ว่ามีทรัพย์สินอะไร
“เพราะฉะนั้นต้องย้อนกลับไปดูว่า ก่อนที่ท่านจะยื่นทรัพย์สินภายใน 60 วัน ที่ครบกำหนด วันนั้นยังมีทรัพย์สินอยู่หรือไม่ หรือ โอนไปก่อนหน้านั้นแล้ว อันนี้ผมไม่ทราบ ยังไม่ได้ตรวจสอบ แต่ถ้ายังไม่โอน ก็ต้องดูว่า ท่านยื่นในฐานะอะไร เป็นเจ้าของหุ้นเอง หรือหมายเหตุเอาไว้ว่า เป็นผู้จัดการมรดก เพราะวันนี้ทราบแต่ว่า มีคำสั่งศาลเข้ามา เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2550 ที่บอกว่า คุณพิธา เป็นผู้จัดการมรดกเท่านั้นเอง”
ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีการระบุว่าหาเอกสารคำสั่งศาลว่า นายพิธา เป็นผู้จัดการมรดกไม่เจอ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดมานานแล้ว ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในระบบจัดเก็บเอกสารสำคัญของศาลนั้น เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า การจัดเก็บเอกสาร เป็นข้อจำกัดของแต่ละหน่วยงาน แต่วันนี้เท่าที่ทราบ ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการยืนยันมาจากทางศาลแล้วว่า ได้มีการแต่งตั้ง นายพิธา โดยไม่มีผู้คัดค้าน แต่ทั้งนี้ตนต้องกลับไปตรวจสอบข้อมูลก่อน เพราะเพิ่งได้รับทราบ ยังไม่เห็นรายละเอียด
“เท่าที่เช็คจากเจ้าหน้าที่เมื่อเช้า ว่ามีหนังสือจากทางศาล แต่ผมยังไม่เห็นตัวหนังสือ ต้องไปดูรายละเอียดอีกที ว่ายืนยันอย่างไร มีการคัดค้านการเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่ แต่ทีนี้ในหนังสือบอกว่า ไม่มีการคัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ยืนยันมา ก็ต้องไปดูว่า หนังสือมาเมื่อไหร่อะไรยังไง ถ้ายืนยันมา หนังสือถูกต้อง ก็น่าจะใช่เป็นผู้จัดการมรดก แต่การเป็นผู้จัดการมรดก เป็นคนละเรื่องกับกรณีคุณสมบัติของ ส.ส. ที่ยื่นตีความ เพราะป.ป.ช. ไม่เกี่ยว เกี่ยวแต่ว่าเขายื่นและดูว่ามีอยู่จริงหรือไม่”
เพราะฉะนั้น ก็ตรวจสอบว่าเป็นกรณีที่มีคำสั่งศาลจริงหรือไม่ ทั้งนี้ ถ้าเอกสารไม่มี ก็สามารถสอบเอกสารอื่นๆ ประกอบได้ ที่ชี้ชัด หรือ มีบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลว่าใช่ ลายมือชื่อเป็นลายเซนต์ของผู้พิพากษา หรือเป็นลายเซนต์ของผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็ใช้ได้ ถือเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่ง เอกสารหายก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ไม่ได้หายเพราะปกปิด เพราะฉะนั้นการตรวจสอบเอกสาร ก็ตรวจสอบได้อยู่แล้ว แต่ต้องใช้เวลาเท่านั้นเอง
นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า การตรวจสอบเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน มีกรอบเวลาอยู่แล้ว และขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง บางคนมีรายการทรัพย์สินและหนี้สินมาก เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ก็ต้องประสานไปเพื่อให้ยืนยันกลับมา ซึ่งก็มีจำนวนมาก เป็นหลายหมื่นบัญชี ที่ ป.ป.ช. ต้องดำเนินการ