ศาลไฟเขียวหมายจับ 3 พลเรือนร่วมฉกทรัพย์-ติดสินบนตำรวจ 140 ล้าน

18 มิ.ย. 2566 | 07:24 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มิ.ย. 2566 | 07:28 น.

“บิ๊กโจ๊ก”เผยศาลอนุมัติหมายจับ 3 พลเรือนร่วมฉกทรัพย์-ติดสินบนตำรวจ 140 ล้าน พร้อมเร่งลากคอ “ต้น - บอย” 2 ใน 3 กลับมารับโทษในไทย แจงการรายงานตัว รองผู้การ-สว.สอท.2 ถูกแจ้ง 4 ข้อหา 


ภายหลัง พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ อ่อนตา รองผู้บังคับการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (รอง ผบก.สอท.2) และ พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สาวัตร(สว.) กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (สอท.2) เข้ารายงานตัวต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันตบทรัพย์ 140 ล้านบาท  

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับพลเรือนที่เกี่ยวข้องแล้ว 3 คน คือ นายพิสิษฐ์ คณิศรพาณี หรือ “ต้น”  นายวีระ นาทรัพย์ หรือ “บอย” และภรรยาของนายบอย ใน 2 ข้อหา ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน และร่วมกันในการกระทำการเอาทรัพย์ผู้อื่นไป 

โดย นายต้น และ นายบอย หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว โดยออกนอกประเทศอย่างถูกต้อง คาดว่ามีสายที่เป็นตำรวจรายงาน แต่จะประสานประเทศปลายทางนำตัวกลับมาดำเนินคดี

ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องมีประมาณ 11-12 คน ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงไม่ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ แต่จะประสานผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดให้ทยอยพามามอบตัวตั้งแต่วันพรุ่งนี้ โดยหลักฐานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการรวบรวมและตรวจสอบเส้นทางการเงิน และข้อมูลทางโทรศัพท์ ซึ่งจะไล่ทั้งหมด และตรวจสอบย้อนหลังด้วยว่า มีความเชื่อมโยงกับตำรวจกลุ่มไหนอีกบ้าง

ตำรวจ 2 คนที่มาพบพนักงานสอบสวนวันนี้ จะแจ้ง 4 ข้อหาคือ เรียกรับผลประโยชน์, ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, ข่มขืนใจผู้อื่นให้ได้ทรัพย์สิน, กักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาสามารถใช้ตำแหน่งในการประกันตัว โดยต้องให้ความเป็นธรรม ตราบใดที่ศาลไม่พิพากษา ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

ส่วนการดำเนินการทางวินัยจะพิจารณาจากพยานหลักฐาน ขึ้นอยู่กับ ผบ.ตร.จะพิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อวานนี้ ตนเองเพิ่งเจอ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภากรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี(ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) ในงานศพพ่อของ ผบ.ตร. ซึ่งได้พูดคุยกันเพราะส่วนตัวก็เคยทำงานร่วมกัน เคยสนิทสนมกัน โดยตนเองก็แนะนำไปว่า “อะไรเป็นความจริง ก็ต้องว่ากันตามความจริง” พร้อมบอกว่า ส่วนตัวไม่ได้บาดหมางหรือเป็นศัตรูต่อกัน แต่ทำตามหน้าที่ ขอให้ผู้การฯเตรียมข้อมูลและหลักฐานมาให้ข้อเท็จจริง ซึ่งผู้การฯไม่ได้ตอบอะไรกลับมา

เมื่อถามถึงที่เว็บพนันที่ตำรวจกลุ่มนี้เข้าไปจับกุม อยู่ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 1 หรือไม่ เหตุใดจึงเป็นชุดของตำรวจภูธรภาค 2 เข้าไปจับกุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ได้ตอบคำถามนี้ กล่าวแต่เพียงว่า ตำรวจภูธรภาค 2 มีการสืบสวนขยายผลจนมาเจอเครือข่ายนี้ ซึ่งเป็นเว็บพนันขนาดใหญ่ ทุนหมุนเวียนนับ 100 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีตำรวจเกี่ยวข้อง

ส่วนจะมีการดำเนินคดีกับกลุ่มเว็บพนันที่เข้ามาแจ้งความหรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างสืบสวน หากพบความผิดก็จะดำเนินคดี แต่ตอนนี้ขอดำเนินการส่วนของกลุ่มไปรีดทรัพย์ก่อน โดยจะเรียกนายเป้ มาสอบปากคำในฐานะผู้เสียหายอีกครั้ง 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มว่า เคสนี้ถือเป็นคดีแรกที่จะใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ ซึ่งตามแนวทางปฏิบัติ จะต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรก แต่ครั้งนี้ไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว มีเพียงการทำบันทึกจับกุมตามขั้นตอนเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งพนักงานอัยการและพนักงานฝ่ายปกครองในท้องที่ที่มีการควบคุมตัวทราบ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า กลางดึกเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) มีตำรวจ 1 ราย เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว คือ พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ.วังจันทร์ จว.ระยอง พร้อมได้ปล่อยตัว