เปิดพฤติกรรมฉาว “ผู้การชลบุรี” พร้อมพวกรวม 10 ราย รีดเงิน 140 ล้านบาท

กรณีมีการแจ้งจับ “ผู้การชลบุรี” พร้อมพวกรวม 10 ราย เรียกรับเงินผู้ต้องหากว่า 140 ล้านบาท โดยมีรายงานว่ าเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วงกต สุวรรณวัตน์ ผกก.สภ.คูคต ได้ทำหนังสือรายงานเหตุด่วนถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง โดยแจ้งว่า ได้มีการรับคำร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และพวกรวม 10 ราย

ตามรายงานระบุว่า เบื้องต้นทั้งหมดถูกแจ้ง 3 ข้อหา 1.เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

2.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือ ยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น

3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย

สำหรับที่เกิดเหตุ เป็นเหตุต่อเนื่องหลายพื้นที่ จุดแรกบริเวณบ้านเลขที่ 19/25 หมู่บ้านเซนโท ซอย หนองระแหง 4 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา จ.กรุงเทพฯ, ห้องทำงานผู้บังคับการ ภ.จว.ชลบุรี อ.เมือง จ.ชลบุรี, สภ.บางละมุง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี, สภ.แสนสุข ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี, ลานจอดรถสุดซอยหมุ่บ้านฉัตรนรงค์สาม หมู่ 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และ บริเวณด้านหลังวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23-27 พ.ค. ต่อเนื่องกัน

ผู้เสียหายในคดีนี้มีทั้งหมด 6 คน 1.นายธนินวัฒน์ อุดมเชาวเศรษฐ์ 2.นายเสฎฐวุฒิ ทองจันทร์ 3.นายอภิรักษ์ ว่องวรดา 4.นายจักรกริช บุญประมุข,5.นายพัฒนะ ศุภภูดิสโสภณ และ 6.นายเกียรติศักดิ์ ประทีปเชวงกิจ ทรัพย์สินที่เสียหายไปมูลค่าประมาณ 140 ล้านบาท

ตามรายงานระบุว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมด 10 คน 

1.พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี

2.พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาสุพัน รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี

3.พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี

4.พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ.วังจันทร์ จว.ระยอง

5.พ.ต.อ.ดำรงค์ อ่อนตา ผกก.สอท.6.พ.ต.ต.นครราช นนสีลาด

7.พ.ต.ท.ปฐมพงษ์ มีอยู่

8.ร.ต.อ.สมบุญ บุตรดาเลิศ

9.นายพิสิษฐ์หรือต้น คณิศรพาณี

และ 10.นายวีระ หรือ บอย นาทรัพย์

สำหรับรายละเอียดและพฤติการณ์ของคดี ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วงบ่าย ชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี ได้เข้าตรวจค้นพื้นที่ 3 จุด 

จุดแรก หมู่บ้านเซ็นโทร ย่านคลองสามวา ได้แสดงหมายจับจับกุม นายธนินนวัฒน์ ก่อนคุมตัวไปสน.คันนายาว 

จุดที่สอง ค้นหมู่บ้านชัยพฤกษ์ ปิ่นเกล้า-กาญจนา ย่านบางใหญ่ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเสฎฐวุฒิ หรือกัน ทองจันทร์ไม่พบผู้ต้องหา เนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศแต่ได้มี ไลน์ไอดี ระบุชื่อ Mr.Ton ติดต่อมา และมีการแสดงหมายจับให้ดู พร้อมกับระบุให้รีบกลับมาพบ Mr.Ton 

ส่วนการตรวจค้นจุดที่สาม บ้านพัก นายอภิรักษ์ หรือ ต๊อบ ว่องวรดาหมู่บ้านชัยพฤกษ์ ปิ่นเกล้า-กาญจนา ย่านนนทบุรี ไม่พบตัวผู้ต้องหาเนื่องผู้ต้องหาเข้าไปทำธุระที่ กทม.

ต่อมาทางชุดศอปส.ภ.จว.ชลบุรี ได้ไปรับตัว นายธนินวัฒน์ ที่ สน.คันนายาว ก่อนนำตัวมาที่ภ.จว.ชลบุรี และได้พบกับ พล.ต.ต.กัมพล มีการพูดคุยถึงเรื่องคดีเส้นทางการเงิน โดย พล.ต.ต.กัมพล ได้เสนอทางออกในเรื่องนี้ พร้อมกับพูดว่า "เป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา”

หลังจากนั้น พล.ต.ต.กัมพล ได้พา นายธนินวัฒน์ ออกจากห้อง และพาไปห้องซักถาม ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ข้างห้อง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ระหว่างนั้นได้มี นายพิสิษฐ์ หรือ ต้น ได้เข้ามาในห้อง และมีการพูดคุยกับ นายธนินวัฒน์ เรื่องเคลียร์คดี โดยยื่นข้อเสนอให้ทาง นายธนินวัฒน์ เสนอตัวเลขมาก่อน นายธนินวัฒน์ ได้เสนอตัวเลขไป 20 ล้านบาท

แต่ปรากฏว่า นายพิสิษฐ์ เกิดความไม่พอใจ พร้อมกับระบุตัวเงิน 120 ล้านบาท เมื่อเห็นตัวเลขที่สูงกว่าตอนที่เสนอ ทำให้ นายธนินวัฒน์ ได้มีการเจรจาขอต่อรอง จนกระทั่งลดยอดลงมาเหลือ 65 ล้านบาท

ภายหลังตกลงราคากันแล้ว นายวีระ หรือ บอย ได้เข้ามาห้องอีกคนพร้อมกับพูดกับนายธนินวัฒน์ ว่า “อยู่เฉยๆ เนียบ พี่เคลียร์ให้จบแล้ว จ่ายเงินที่ต้นเลย” หลังจากนั้นได้นำตัวนายธนินวัฒน์ ออกจากภ.จว.ชลบุรี ด้วยรถยนต์โตโยต้า รุ่นอัลพาร์ท สีดำ ป้ายแดงโดยนั่งไปกับนายวีระ และถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.บางละมุง โดยย้ำให้นายธนินวัฒน์ หาเงินมาเคลียร์ให้ได้ 65 ล้านบาท

สุดท้าย นายธนินวัฒน์ ได้ติดต่อยืมเงินจากกลุ่มเพื่อนและญาติได้ทั้งหมด 65 ล้านบาท โดยเป็นการยืมมาจากนายเค จำนวน 29.2 ล้านบาท ,นายพุ จำนวน 8 ล้านบาท และน.ส.ใหม่อีกจำนวน 28 ล้านบาท เพื่อส่งให้กับทางกลุ่มนายวีระหรือบอย และนายพิสิษฐ์ โดยนัดหมายส่งเงินกัน 2 จุด

จุดแรก กลุ่มเพื่อน 3 คน นำเงินจำนวนเงิน 57.2 ล้านบาท นัดส่งภายในลานจอดรถสุดซอย หมู่บ้านฉัตรณรงค์ 3 หมู่ 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี โดยกลุ่มเพื่อนผู้เสียหายได้นำเงินไปใส่ท้ายรถ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ภายในลานจอด จุดที่ 2 จำนวนเงิน 28 ล้านบาท บริเวณด้านหลังวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จว.เชียงราย

เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า มีการส่งเงินจำนวนดังกล่าว รวม 85.2 ล้านบาทแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ชุด ศอปส.ภ.จว.ชลบุรี และนายวีระ ได้นำตัว นายธนินวัฒน์ ไปยังสภ.แสนสุข เพื่อส่งพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนั้นพบว่า พล.ต.ต.กัมพล ได้อยู่ที่สภ.แสนสุขด้วย และยังได้มีการสั่งการให้ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุข รองผบก.ภ.จว.ชลบุรี ให้เข้ามาควบคุมการทำสำนวน และเรื่องประกันตัว

ต่อมาช่วงเวลา 22.00 น. นายวีระ และเจ้าหน้าที่ชุดศอปส.ภ.จว.ชลบุรี บางส่วน ได้นำตัว นายธนินวัฒน์ ไปรับประทานอาหารที่ร้าน “ป้าแดง ลาบอุบล” ก่อนที่นายวีระ จะนำตัวนายธนินวัฒน์ ขึ้นรถยนต์ ปอเช่ รุ่นคาเยน สีบรอนซ์ทอง ไปส่งที่บ้านพัก

ถัดมามาวันที่ 25 พ.ค. เวลาประมาณ 00.00 น. นายเสฎฐวุฒิ หรือ กัน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านจุดที่สอง ที่ถูกเข้าตรวจค้นก่อนหน้านี้ได้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ได้มีนายเกียรติศักดิ์ หรือเอ็ม ได้เดินทางไปรับ เพื่อนำตัวไปพบนายพิสิษฐ์ หรือต้น ที่ร้านG-Day พร้อมกับส่งเงินให้ 5 ล้านบาท และระบุว่า ในวันที่ 26 พ.ค.จะนำมาเงินมาเคลียร์ให้อีก 20 ล้านบาท

ต่อมาวันที่ 26 พ.ค. นายวีระ ได้นัดให้ นายธนินวัฒน์ และ นายจักรกริช หรือ แก๊บ บุญประมุบ ไปพบ นายวีระ หรือ บอย ที่ร้านอาหารปูเป็น เวลาประมาณ 13.00 น. เพื่อพูดคุยเรื่องคดีของ นายจักรกริช และยังจะขอเข้าเป็นหุ้นส่วนเว็บพนัน และเรียกรับเงินอีก 30 ล้านบาท ในส่วนของนายพัฒนะ ,นายเกียรติศักดิ์  และ นายอภิรักษ์ ซึ่งเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ ให้ไปมอบให้วันที่ 27 พ.ค.

ตามรายงานระบุอีกว่า นายเสฎฐวุฒิ หรือกัน ได้ไปพบ นายพิสิษฐ์ ตามที่นัดหมายเพื่อเคลียร์เงิน 20 ล้าน โดยนัดส่งเงินกันที่ร้านสตาร์บัค ล็อบบี้ โรงแรมเซ็นทาราพัทยา และในวันที่ 27 พ.ค. นายจักรกริช ได้ไปที่ร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ชลบุรี พร้อมกับเงิน 30 ล้าน โดยนายวีระได้ระบุให้ส่งมอบกับชายไทยไม่ทราบชื่อ ลักษณะผิวคล้ำ เดินกระเผลก พูดไม่ชัด

ภายหลังกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 6 คน ได้ปรึกษากัน และเกิดความไม่พอใจถึงพฤติกรรมของกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว และลูกน้อง จึงได้นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด