นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผู้จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ปชป.ว่า ต้องเริ่มต้นจากความสมัครใจก่อนว่า มีใครที่จะสมัครใจเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค เป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ กี่คน และเป็นใครบ้าง ตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่ามีใครที่สมัครใจ
"ผมใช้คำว่าสมัครใจหลายครั้งนะครับ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นี้ต้องสมัครใจ แล้วถ้าเกิน 1 คน ก็ต้องลงคะแนน แม้แต่คนเดียวก็ต้องลงคะแนน ว่าที่ประชุมรับรองหรือไม่ สิ่งนี้เป็นวิถีประชาธิปไตยในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้นต้องนับหนึ่งจากการที่ต้องไปดูว่ามีใครที่สนใจลงสมัครหรือไม่"
นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคประชาธิปัตย์มีคน ไม่ต้องห่วง ส่วนจะเป็นใครนั้นอยู่ที่ความสมัครใจ ตนพยายามย้ำคำนี้หลายครั้งว่าจะต้องสมัครใจจริงๆ เพราะเป็นภารกิจที่จะต้องเพียบพร้อมหลายด้านในการที่จะมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีคนสมัครใจแล้วกี่คน นายจุรินทร์ ก็ตอบว่า ยังไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลานี้ ดูเหมือนอำนาจในการเลือกหัวหน้าพรรค อยู่ที่ ส.ส. ภาคใต้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภาคใต้มี ส.ส. เยอะที่สุด ซึ่งเป็นมาหลายครั้ง แต่ทั้งหมดจะอยู่ที่องค์ประชุมใหญ่ในการลงคะแนน ทุกคนล้วนมีความสำคัญใกล้เคียงกัน แม้ว่าน้ำหนักของคะแนนจะต่างกันไปบ้าง แต่ก็ต้องถือว่าทุกคนมีความสำคัญในการตัดสินใจเลือกหัวหน้าพรรค เลือกกรรมการบริหารพรรค
"ตอนนี้ขอยังไม่พูดถึงเรื่องตัวบุคคล เพราะเมื่อถึงเวลา ก็ต้องดูว่าใครสมัครใจ ที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ ส่วนสเปคก็จะเป็นไปตามข้อบังคับพรรค แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากเห็น ผมอยากเห็นคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีบทบาทในการเป็นกรรมการบริหารพรรค อันนี้คือกรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่หัวหน้าพรรค
ส่วนหัวหน้าพรรคขอละไว้ในฐานที่จะไม่ให้ความเห็น แต่สำหรับกรรมการบริหารพรรคผมก็อยากเห็นคนรุ่นใหม่ๆ ได้มีโอกาสเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพราะเขาจะต้องเป็นคนที่จะต้องไปต่อยอดอนาคตของพรรคต่อไป"
นายจุรินทร์กล่าวว่า วันที่ 2 ก.ค. มีการนัดประชุม ส.ส. พรรคนัดแรก วันนั้นคงจะเชิญเจ้าหน้าที่สภาไปให้ข้อมูลสำหรับ ส.ส. ใหม่ เพื่อให้ทราบถึงแนวปฏิบัติ รวมถึงแนวทางการให้บริการของสภาเกี่ยวกับการค้นข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบการทำหน้าที่ ส.ส. ให้สมบูรณ์แบบที่สุด ถือเป็นเรื่องปกติที่พรรคจะมีการปฐมนิเทศทุกครั้งที่มีการประชุม ส.ส. ครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง
นอกจากนั้นคงจะมีการเลือกประธานในที่ประชุม ส.ส. ซึ่งก็จะเป็นการเลือก ส.ส. คนใดคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
ส่วนแนวทางการโหวตเลือกประธานสภาฯนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเสนอชื่อใครบ้าง แต่เรื่องประธานสภาฯที่มีการถกกันมากนั้น เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับ 2 พรรคใหญ่เท่านั้น ถ้าตกลงกันได้ ทิศทางก็จะต้องไปตามนั้น เพราะ 2 พรรครวมกันก็เกือบ 300 เสียง ซึ่งเกินเสียงข้างมากในสภาผู้แทนที่เป็นโหวตเตอร์แล้ว
ดังนั้นจึงอยู่ที่ 2 พรรคใหญ่เป็นหลัก ก็ให้ไปตกลงกันให้ได้ในเบื้องต้น แล้วนำเสนอสู่ที่ประชุม และที่ประชุมจะได้ทำหน้าที่ในการลงคะแนนต่อไป