เปิดประวัติ "ปดิพัทธ์ สันติภาดา" ส.ส.ก้าวไกล ชิงเก้าอี้ประธานสภา

หลังจากที่ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลเปิดชื่อตัวเต็งชิงเก้าอี้ "ประธานสภา" ออกมาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค ฝ่ายกฎหมาย นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.กทม. เขต 18 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรค และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ

กระทั่ง ล่าสุดได้ข้อสรุปแล้วว่าจะเสนอชื่อ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 ในฐานะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล สัดส่วนภาคเหนือ เป็นประธานสภาฯซึ่งไม่มีเสียงคัดค้านและไม่มีการโหวตแข่งขันกันภายในพรรคแต่อย่างใด 
        
ประวัตินายปดิพัทธ์ สันติภาดา 

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ "หมออ๋อง" เกิดวันที่ 15 ตุลาคม 2524 ปัจจุบันอายุ 42 ปี 

การศึกษา 

• จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม 
• จบปริญญาตรีจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยศาสตรบัณฑิตทรีนีตี้ ประเทศสิงคโปร์ 

เคยทำงานเป็นนายสัตวแพทย์ปฏิบัติการเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 จนถึงปี พ.ศ. 2561 ทำงานด้านการพัฒนาเยาวชนและแก้ไขปัญหาสังคมกับสมาคมนักศึกษาคริสเตียนไทย

ตัดสินใจเข้ามาเล่นการเมือง เริ่มจากสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่และลงสมัครรับเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 ได้ 35,579 คะแนน ชนะคู่แข่งขาดลอยทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 

ตำแหน่งในสภา 

• ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนฯ
• กมธ.วิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางในการบริหารจัดการการชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา สภาผู้แทนฯ
• โฆษก กมธ.วิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนฯ

ทั้งนี้ นายปดิพัทธ์ ได้แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2562 ระบุว่า ตนเองและคู่สมรส พร้อมบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินรวม 8,081,878 บาท และหนี้สินรวม 135,588 บาท

โดยในส่วนของหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น ระบุว่า เป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งทำสัญญาเมื่อปี 2542 ยอดหนี้คงเหลือ จำนวน 85,661.99 บาท 

ในขณะที่ได้แจ้งรายการมีทรัพย์สินอื่นเป็นทองคำ (สร้อยคอ แหวน และสร้อยข้อมือ) ซึ่งได้มาเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2554 มูลค่า 267,000 บาท