นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol โดยมีข้อความระบุว่า
การเมืองฉาก 2 เพื่อไทยรวบขั้วเก่า
1. หลังจากก้าวไกลส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลตามฉันทามติของประชาชนตามแถลงการณ์ร่วม 8 พรรค ด้านหนึ่งก็เกิดกระแสถล่มพรรคเพื่อไทยและชินวัตรเหมือนก่อนเลือกตั้ง อีกด้านหนึ่งเพื่อไทยก็ได้เชิญพรรคการเมืองขั้วเก่ามาหารือเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล
2. การหารือกับพรรคขั้วเก่าเมื่อ 22 ก.ค. ปรากฏว่าพรรคที่รับเชิญมาทุกพรรคพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องไม่มีพรรคก้าวไกล ประหนึ่งยืมปากพรรคขั้วเก่าไล่ก้าวไกลให้ถอนตัวจากแถลงการณ์ร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค
แนวข่าววานนี้มีแนวโน้มว่า"จะมีการสลับขั้วตั้งรัฐบาล" เข้าสู่การเมืองฉาก 3 โดยมีก้าวไกล ประชาธิปัตย์และไทยสร้างไทย เป็นฝ่ายค้าน
3. ท่าทีของก้าวไกลจากเวทีปราศรัยภาคตะวันออกเมื่อวานนี้สรุปได้ชัดเจนว่า"ก้าวไกลยังคงยึดมั่นในแถลงการณ์ร่วม 8 พรรค"
จึงน่าจะไม่ถอนตัวออกจากแถลงการณ์ร่วมนั้น "หากเพื่อไทยจะฉีกแถลงการณ์ร่วม" หรือตะเพิดก้าวไกลไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับขั้วเก่าก็เป็นความรับผิดชอบของเพื่อไทยฝ่ายเดียว
นายพิธาได้ประกาศแนวทางการเมืองจากนี้ไปว่า"เมื่อไม่ได้อยู่ในสภาก็จะอยู่กับประชาชน" จะส่งผลให้การเมืองนับแต่นี้ไปมีสภาพเป็น 2 แนวรบคือในสภาและนอกสภา
4. แนวโน้มส่อว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในวันที่ 27 นี้ เพราะพิษเศรษฐกิจกำลังกำเริบหนักหากล่าช้าต่อไปประเทศไทยก็จะทนต่อบาดแผลนี้ไม่ได้
และทันทีที่พรรคเพื่อไทยได้รับความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี ถ้าหากเป็นคุณเศรษฐาก็ต้องจับตาที่ตั้งเงื่อนไขไว้ทั้ง 3 ประการคือ
ไม่ตั้งรัฐมนตรีจากรวมไทยสร้างชาติและประชาธิปัตย์
จะคัดเลือกรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลเอง ที่สำคัญคือรัฐมนตรี คมนาคมและสาธารณสุข
จะต้องมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่แน่ว่าจะรักษาคำพูดนี้ไว้ได้หรือไม่
แต่เมื่อถึงเวลานั้นจะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการกราบบังคมทูลเสนอแต่งตั้งรัฐมนตรี
จะต้องจับตาดูว่าถ้าพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาล คุณหมอชลน่าจะลาออกจากหัวพรรคตามที่สัญญาไว้กับประชาชนหรือไม่?