เบื้องหลัง “ทักษิณ” กลับไทย กับ 5 นัยการเมือง
10 ส.ค.นี้ “ทักษิณ” จะบินกลับไทย นัยทางการเมือง มองได้ว่า เคลียร์กับ “ผู้ใหญ่” แล้วเพื่อให้บ้านเมืองสงบ เป็นการส่งสัญญาณว่า “เพื่อไทย”สามารถเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยไม่มี “ก้าวไกล” ร่วมด้วย
ความฝันของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังเป็นจริง เมื่อ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประกาศอย่างเป็นทางการถึงกำหนดกลับไทยในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ลงเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง
“26 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญของลูกเสมอ แต่ปีนี้ลูกยังไม่อยากเชื่อตัวเอง ในสิ่งที่ลูกกำลังจะพิมพ์ พ่อจะกลับมาแล้ว วันที่ 10 สิงหาคม นี้ ที่สนามบินดอนเมือง” อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเกิดครบรอบ 74 ปี ของผู้เป็นพ่อ
น.ส.แพทองธาร ระบุด้วยว่า “17 วันเกิดที่ต่างประเทศของพ่อ ลูกพลาดไปแค่ 2 ครั้ง ถ้ารวมครั้งปีนี้คือ ครั้งที่ 3 เพราะต้องเตรียมหลายอย่างที่เมืองไทย ใจของลูก และทุกคนในครอบครัวเราหนักอึ้ง ทั้งดีใจ ทั้งเป็นห่วง แต่ก็เคารพการตัดสินใจของพ่อเสมอ”
เช่นเดียวกันกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “น้องหวังว่าพี่จะมีความสุขในชีวิต และประสบความสำเร็จ ...เวลาที่พวกเราเฝ้ารอคอยมาถึงแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่พี่ดูแลน้อง ตั้งแต่น้องจากประเทศไทยมา ถ้าน้องไม่มีพี่ น้องคงไม่สามารถที่จะยืนหยัดได้อย่างเข้มแข็งแบบนี้”
“ทักษิณ”ลั่นพบกันเร็วๆ นี้
ส่วนความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้วิดีโอคอลมาพูดคุยกับครอบครัวเพื่อไทย ที่ร่วมกันจัดงานและมาร่วมอวยพรวันเกิด ที่วัดมหาวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดย ทักษิณ ได้เปิดใจว่า
“การทำบุญวันเกิดที่อยู่ต่างประเทศครั้งสุดท้ายแล้ว อีกไม่กี่วันนี้ จะกลับบ้านแล้ว จะไปเยี่ยมพี่น้องที่อุบลฯ นะ ทีเแรกตั้งใจจะกลับเร็วๆ นี้ พอดีเป็นวันหยุดต้องเลือกวันหน่อย วันนี้น้องอิ๊งจะประกาศว่าผมจะกลับวันไหน ก็ไม่กี่วันนี่หล่ะครับ ก็จะไปเยี่ยมกัน
ขอขอบคุณพี่น้องชาวอุบลที่ยังสนับสนุนผม และพรรคเพื่อไทยตลอด คราวหน้าเราคงได้ใกล้ชิดมากกว่านี้หลังผมกลับไป ขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญนะครับ เศรษฐกิจหลังเพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็คงน่าจะดีขึ้นเยอะ”
5 นัย“ทักษิณ”กลับไทย
การกลับไทยของ ทักษิณ เป็นช่วงเวลาที่ พรรคเพื่อไทย กำลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และเสนอคนของพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่งสามารถวิเคราะห์เหตุที่ทำไม ทักษิณ ถึงกล้ากลับไทยในช่วงนี้ ทั้ง ๆ ที่เคยประกาศมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็มีอันเลื่อนออกไปทุกที
มาครั้งนี้อาจเป็นเพราะ 1.มีการเคลียร์ตกลงกับ “ผู้ใหญ่” ในเงื่อนไขเพื่อให้บ้านเมืองสงบจบลง 2.มี “ข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง” ในการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย
3.เป็นการส่งสัญญาณไปยัง “ขั้วอนุรักษ์นิยม” ให้ตัดสินใจ 4.ยอมเอาเป็นตัวประกันทางการเมือง หลัง 17 ปี นับแต่หนีออกนอกประเทศไม่ยอมให้ถูกขังแม้แต่วินาทีเดียว และ 5. เป็นการส่งสัญญาณว่า พรรคเพื่อไทย สามารถเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยไม่มีพรรคก้าวไกล ร่วมด้วย
“เจษฎ์”ชี้เคลียร์จบ
รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการ วิเคราะห์ถึงการกลับไทยของ นายทักษิณ ว่า กลุ่มผู้ที่สนับสนุนคงรู้สึกใจชื้นขึ้นมาแน่นอน เพราะคนที่เป็นมันสมองของพรรคกลับมา และอาจเป็นการส่งสัญญาณบางประการ ว่าการที่นายทักษิณกลับมา แปลว่ามีการจัดการอะไรบางประการแล้ว ที่ทำให้นายทักษิณ สามารถเดินทางกลับมาได้ ส่วนการจัดการนั้นจะไปถึงขั้นไหน จะเป็นในระดับการจัดตั้งรัฐบาล หรือความเป็นอยู่ของตัวคุณทักษิณเท่านั้น
“สถานการณ์ก็จะมีคลื่นในแต่ระลอกว่าคลื่นนั้นสูงหรือไม่ ซึ่งก็ต้องรอดูกันไป ส่วนจะเป็นผลบวกหรือลบมากกว่านั้น ผมคิดว่าหากคุณทักษิณตั้งใจที่จะกลับมาอยู่บ้านตลอดไป ไม่สร้างสภาวะ แบบเดิมเหมือนที่ผ่านมา เขาก็คงต้องคิดว่าทำอย่างไรที่ให้เกิดความสมานฉันท์ในประเทศ สามารถพูดคุยกันรู้เรื่อง ซึ่งหากมองมุมนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นมุมบวกของบ้านเมือง”
รศ.ดร.เจษฎ์ ชี้ว่า คนทางฝั่งสีส้มก็ต้องไม่พอใจ และชุมนุมประท้วงกันแน่นอน ซึ่งก็ต้องบริหารจัดการกันให้ดี จะเอาใครมาเป็นนายกฯ หรือ นายกฯมีที่มาอย่างไร ต้องเคลียร์หลายเรื่องที่เป็นข้อครางแคลงใจ สมมุติว่าเคลียร์กันได้ไม่หมด ก็ต้องทำให้คนที่รับฟังเหตุและผล ซึ่งเป็นคนส่วนมาก ยอมรับได้
ด้านนายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ไม่เชื่อว่า นายทักษิณ กลับมาแล้วจะเข้าสู่กระบวนการจองจำ หากไม่มีการการันตีว่าจะได้อยู่อย่างสบายๆ
“ในกรณีที่ นายทักษิณ กลับมาแล้ว ไม่เข้ารับโทษ ผมว่าจะเป็นปัญหาความยุ่งยากทันที ฝั่งเสื้อเหลืองอาจจะไม่พอใจและไม่ยอมได้ ซึ่งอาจเป็นชนวนที่กระตุ้นให้เกิดเรื่องได้”
ตัวช่วยฝ่ายอนุรักษนิยม
ส่วน นายปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการอิสระ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง ความมั่นคง และการต่างประเทศ เห็นว่า การกลับไทยของ นายทักษิณ จะมีผลต่อการโหวตนายกฯ ถ้ากลับมาแล้วจัดระบบได้ เช่น คุมพรรคก้าวไกลได้ หรือ ผลักอย่างสันติให้ไปเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบเพื่อไทย คิดว่า ส.ว.ก็รับได้ แต่ต้องมีคนแบบ นายทักษิณ มาจัดระบบ
“ทีท่าของ นายทักษิณ ถ้าเปลี่ยนไป ก็อาจจะไม่มีความยุ่งยากมากนัก สิ่งที่คนต้องการเห็นมากที่สุดคือ นายทักษิณ ยอมรับกระบวนการยุติธรรม เมื่อรับกระบวนการไปแล้วก็ต้องอยู่นิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นเงื่อนไข ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านสังคมไทย ผมว่าเริ่มยอมรับแล้ว ที่สำคัญฝ่ายอนุรักษนิยม มองว่าจะได้ช่วยเขาจัดการกับพรรคก้าวไกล ก็ลงตัวกันมากขึ้น นายปณิธาน กล่าว