"บิ๊กตู่"ลงพื้นที่ระยอง ติดตามโครงการ EEC ปลื้ม 5 ปีแรกขับเคลื่อนสำเร็จ
"นายกฯ"นำคณะลงพื้นที่จังหวัดระยอง ติดตามความก้าวหน้าโครงการอีอีซี เผยดีใจ 5 ปีแรกขับเคลื่อนจนสำเร็จ แนะชปลูกต้นไม้แบบผสมผสาน 158 ชนิด เป็นแหล่งท่องเที่ยว
วันที่ 9 ส.ค.2566 ที่สำนักงานใหญ่ EECi พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาปฏิบัติราชการ ติดตามโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC
นับเป็นการเดินทางมาปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดระยองครั้งแรก หลังจากที่ได้มีการประกาศวางมือทางการเมือง ขอลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยในช่วงเช้านายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมที่ยั่งยืน และเมืองนวัตกรรมชีวภาพการเกษตรสมัยใหม่ ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ เป็นศูนย์กลางควบคุมสาธารณูปโภคของเมือง สำหรับควบคุมและสั่งการระบบสาธารณูปโภคระบบความปลอดภัยและระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด
ภายในพื้นที่มีห้องควบคุมปฏิบัติการซึ่งเปรียบเสมือน เป็น War room แห่ง วังจันทร์วันเล่ ระบบในพื้นที่ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในห้องควบคุมปฏิบัติการประกอบไปด้วย Video Wall ขนาดใหญ่ และมี work Station สำหรับให้พนักงานปฏิบัติการ ควบคุมและสั่งการระบบปฏิบัติการต่างๆ ทั้งการ Monitor ข้อมูลทุกระบบภายในอาคาร ไปจนถึงภายในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์แบบ Real Time
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในทุกมิติ โครงการ EEC จึงถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญ ที่รัฐบาลได้เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ สำคัญๆ เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับประเทศ และเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน
ปัจจุบันการทำงานของพื้นที่วังจันทร์วันเลย์ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม eeci ทำดีแล้ว และอยากให้ทำต่อ เพื่อให้นวัตกรรมในอนาคตได้ทันประเทศอื่น และอยากให้ปลูกต้นไม้แบบผสมผสาน 158 ชนิด ที่รัฐบาลปลดล็อกให้นำมาปลูกได้ เพื่อให้เป็นมรดกของลูกหลานและเป็นแหล่งท่องเที่ยว”
“ผมดีใจที่ 5 ปีแรกขับเคลื่อนประสบความสำเร็จ มีการประกอบการคำนึงสิ่งแวดล้อม ฝากบอกทุกคน มองปัจจุบันและอนาคตไว้ด้วย ถ้ามองอดีตแล้วมีปัญหากัน อะไรก็ไปไม่ได้ ทำให้ลูกให้หลานเรา วันนี้เราอายุมากแล้ว ก็ต้องส่งต่อฝากสื่อด้วย ถ้าเรามีปัญหาอะไรกันมากๆ ก็จะไม่ได้อะไรเลย สูญเปล่า ต้องช่วยกัน”
หลังจากนั้นเข้าเยี่ยมชม ศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน หรือ SMC: Smart Manufacturing Center เป็นศูนย์ที่ตอบโจทน์การผลิตยุคใหม่พัฒนาไทยสู่ INDUSRY 4.0 มุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการผลิต ผู้พัฒนาระบบ นวัตกร นักวิจัยตลอดจนนักศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งในรูปแบบการสาธิต การเรียนรู้และการทดลองปฏิบัติจริง รวมไปถึงกิจกรรมวิจัยเพื่อการสร้างนวัตกรรม
โดยมุ่งเน้นใน 5 ด้าน คือ 1 ด้านการพัฒนาบุคลากรอุตสาหกรรมการผลิตครอบคลุมทุกระดับ 2 ด้านการผลิตตัวอย่างและ Testbed ที่ทันสมัยและครบครัน ก่อนการตัดสินใจลงทุนจริง 3 ด้านการสร้างเครือข่ายการเชื่อมโยงเทคโนโลยีและธุรกิจ ให้เกิดความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี 4 ด้านการวิจัย พัฒนาและวิศวกรรม เพื่อให้บริการแก่ SI และภาคการผลิต 5 ด้านมาตรฐานและบริการ ตรวจประเมินความพร้อมภาคการผลิต
ปัจจุบัน ศูนย์ SMC ได้เปิดให้บริการใน 7 บริการสำคัญ ประกอบด้วย ตรวจประเมินระดับความพร้อมของโรงงาน บริการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร บริการศูนย์เรียนรู้สายการผลิตเพื่อการเรียนรู้ บริการเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ทดสอบ บริการวิจัย พัฒนา ความต้องการเฉพาะด้าน บริการแพลตฟอร์มพื้นฐานเพื่อการผลิต บริการให้คำปรึกษาทางเทคนิค และ บริการให้คำปรึกษาแหล่งทุนและสิทธิประโยชน์
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เข้าติดตามแนวทางการพัฒนามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ณ สถาบันวิทยสิริเมธี
ช่วงบ่ายเดินทางมาที่สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่3 โดยมีนาย วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ
จากนั้นเดินทางไปที่ อาคารนิทรรศน์พรรณพฤกษา เยี่ยมชมการปลูกพันธ์ไม้เมืองหนาวโดยใช้ความเย็นจากก๊าซแอลเอ็นจี ก่อนจะกล่าวมอบนโยบายและเดินทางกลับ
อัจฉรา วิเศษศรี : รายงาน