หากพูดถึง "เงินดิจิทัล 10000" หนึ่งในนโยบายเรือธงในการเลือกตั้งที่ผ่านมาของพรรคเพื่อไทยซึ่งกำลังถูกพูดถึงมากที่สุดเวลานี้คงต้องยกเครดิตให้กับ ทีมนโยบายเศรษฐกิจของพรรค โดยคีย์แมนคนสำคัญหนึ่งในนั้นก็คือ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคและโฆษกคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ควบตำแหน่ง "ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย" อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
เผ่าภูมิ เป็นหนึ่งใน "นักนโยบายเศรษฐกิจ" ของพรรคอยู่ท่ามกลางขุนพลเศรษฐกิจที่มากประสบการณ์ของพรรค ไม่ว่าจะเป็น นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ
นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายในรัฐบาลทักษิณ, ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศ และดร.ปานปรีย์ มหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าและที่ปรึกษานายกด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ เป็นต้น
ประวัติ เผ่าภูมิ โรจนสกุล
เกิดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2526 อายุ 40 ปี ชื่อเล่น ออฟ
จบการศึกษา
เส้นทางการเมือง
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 89 ของพรรคเพื่อไทย จากประสบการณ์การทำงานที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หน่วยงานรัฐซึ่งถือว่าเป็น คลังสมองของประเทศ ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจในการจัดทำนโยบายแต่เนื่องจากการทำงานในหน่วยงานรัฐนั้นมีข้อจำกัดจึงตัดสินใจเบนเข็มเข้าสู่เส้นทางการเมือง เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ไว้ว่า
"...ระบบราชการของไทยยังมีปัญหาอยู่เยอะมาก ด้วยระบบราชการมีหลายลำดับชั้น ทำให้ผลักดันสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นได้ยากพอสมควร ล่าช้า และไม่ได้ตอบสนองในสิ่งที่เราอยากให้มันเป็น นโยบายที่เราคิด ทิศทางที่คิดไว้ ขับเคลื่อนได้ช้า"
เผ่าภูมิ เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยจากการเชิญชวนของ นายภูมิธรรม เวชยชัย คีย์แมนคนสำคัญของพรรคและเริ่มทำงานด้านการพัฒนา วิจัยและออกแบบนโยบาย ได้เป็น กรรมการและเลขานุการกรรมการนโยบายและวิชาการพรรคเพื่อไทย
ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้าน เขาคือคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ออกมาตอบโต้การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประเด็นปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และความล้มเหลวของ พ.ร.ก. เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ที่เรียกว่า "กู้มาแจก" เลยไปถึงความล้มเหลวในการบริหารสถานการณ์โควิด-19
ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เขาทำหน้าที่สื่อสารกับสังคมในประเด็นต่าง ๆ รวมถึง Digital Wallet หรือ นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทนี้ด้วย ตอนหนึ่ง "เผ่าภูมิ" ได้ชี้แจงนโบายนี้เอาไว้ว่า
"..การกระตุ้นครั้งใหญ่ต้องเกิดขึ้นเพื่อปลุกชีวิตของประเทศขึ้นมา เราปลุกเศรษฐกิจของประเทศขึ้นมาระดับหนึ่งจากที่อยู่ไอซียู และวันนี้เราจะปลุกแรง - ปลุกด้วยเงิน 500,000 กว่าล้านบาทที่ไม่ใช่แค่ปลุกให้ฟื้นเฉย ๆ เราปลุกเสร็จ เราจะทำกายภาพบำบัด เราจะพาคนไทยวิ่งเพราะทางพรรคเตรียมโครงการไว้เยอะ.."