"เศรษฐา"รับไม้ต่อ"ประยุทธ์"สานงานรัฐบาล เชื่อปรับครม. ทุกพรรคเข้าใจ

26 ส.ค. 2566 | 06:59 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ส.ค. 2566 | 06:59 น.

"เศรษฐา"รับไม้ต่อ"ประยุทธ์"สานงานรัฐบาล เชื่อปรับครม. ทุกพรรคเข้าใจ ชี้ทุกคนมีศักยภาพ ระบุตำแหน่งในกระทรวงใหญ่มีการพูดคุยกันแล้ว และคิดมาเป็นอย่างดี เผยผู้ใหญ่ในแต่ละพรรคผ่านการดูแลงานมาเยอะ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ้กส่งไม้ต่อเก้านี้นายกรัฐมนตรีและสานงานรัฐบาลว่า ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด โดยจะรับไปพิจารณา ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมาจากรัฐบาลเดิม ก็จะมีการไปรับฟังงานที่ค้างไว้ โดยเฉพาะงานต่างประเทศที่สามารถสานต่อได้ 

ส่วนในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็ต้องดูว่าสิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาสถานการณ์การเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ และบางอย่างจะล็อคยาว 20 ปีก็ต้องดูความเหมาะสมและ สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน 

ขณะที่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ตามที่ปรากฏเป็นข่าวใกล้เคียง แต่ขณะนี้ยังไม่อยากก้าวล่วงคณะเจรจา ซึ่งขณะนี้การเจรจาคืบหน้าไปในทางที่ดี และมีการลงรายละเอียดด้วยว่า อยู่ระหว่างการพูดคุยกัน ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดความถนัดของบุคคลที่จะเข้ามาดูแลกระทรวงนั้นๆ โดยยึดความเจริญของประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่แค่การจัดสรรอย่างเดียว ซึ่งของพรรคเพื่อไทยเหลืออีกนิดเดียว 2-3 ตำแหน่ง 

และต้องขอดูรายละเอียดว่าจะเป็นอย่างไร หลังมีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยได้กระทรวงมหาดไทย ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีชื่อรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย แล้วเปลี่ยนมาเป็นชื่อของพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรมจะเสียใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจ 

เศรษฐารับไม้ต่อ"ประยุทธ์"สานงานรัฐบาล เชื่อปรับครม. ทุกพรรคเข้าใจ

และตำแหน่งในกระทรวงใหญ่ๆ มีการพูดคุยกันแล้ว และคิดอย่างดีแล้ว เพราะผู้ใหญ่ในแต่ละพรรคทุกคน ผ่านการดูแลงานมาเยอะเชื่อว่าทุกคนมีความเหมาะสม

ด้านตัวแทนการค้าที่ผ่านมาไม่ได้มีบทบาทเท่าไหร่นั้น เรื่องดังกล่าวนี้ รัฐบาลจะให้ความสำคัญ ซึ่งตามความเข้าใจของตัวเองผู้แทนการค้ามี 5 คน และสามารถตั้งประธานได้อีก 1 คน ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสำคัญที่พัฒนาประเทศ 

โดยจะพิจารณาความเหมาะสมและความสามารถส่วนบุคคลในการแต่งตั้ง ขออย่าบอกว่าเป็นโควตาของพรรคไหนให้เอาประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง

นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า ขอเอาผลงานเป็นที่พิสูจน์การทำงานของรัฐบาลนี้รวมถึง กระแสข่าวที่ว่าตนเองจากควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่าสภาวะเศรษฐกิจมีปัญหา และรับทราบว่าการคาดหวังของประชาชนสูง 

แต่ก็เชื่อว่าคนที่ถูกคัดเลือกจะทำหน้าที่พร้อมที่จะทำงานด้วยความเน็ตเหนื่อย รวมถึงยอมรับว่าเป็นธรรมดาว่ารัฐมนตรีช่วยว่าการจะต้องร่วมงานกับรัฐมนตรีว่าการ และการนำโจทย์ความลำบากของประชาชนไม่ว่าบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีช่วยไม่ว่าจะมาจากพรรคการเมืองใดจะสามารถคุย และทำงานร่วมกันได้ ไม่อยากตั้งแง่ว่ามาจากพรรคไหน

“เชื่อว่า 11 พรรคที่มาอยู่ด้วยกันวันนี้ทุกคนเข้าใจถ่องแท้ ถึงความต้องการของประชาชนเข้าใจถึงปัญหา เข้าใจถึงการเดินไปข้างหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง”