การเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 ที่กำหนดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2566 ทางพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)โดยนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคกลาง และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช พร้อมด้วย นายสมบัติ ยะสินธุ์ สส. แม่ฮ่องสอน นายศุภชัย ศรีหล้า อดีต สส. อุบลราชธานี นายประกอบ รัตนพันธ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส. กทม. และนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค มาช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมร่วมกับ นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ผู้สมัคร สส. ระยอง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 2 ลงพื้นที่ตลาดสามย่าน และแหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง จ.ระยอง
คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า วันนี้เป็นการแสดงพลังรวมใจกันของพรรคประชาธิปัตย์จากทุกภาคมาช่วยกันขอคะแนนชาวระยองด้วยความมั่นใจเกินร้อย เพราะไปเดินลงพื้นที่ที่ไหนก็จะมีพี่น้องประชาชนเข้ามาทักทายก่อนตลอด และให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
นายสาธิต กล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้แตกต่างจากการเลือกตั้งใหญ่ที่จบไปแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการเลือกคน เราวัดคุณสมบัติกันตัวต่อตัว นพ.บัญญัติ ไม่มีคุณสมบัติด่างพร้อย ทำงานมาเป็นผู้แทนฯ แล้ว 3 สมัย มีผลงานชัดเจน ดังนั้นเราจึงมีแคมเปญเน้นเลือกคนบ้านเราที่มีคุณภาพ เรามั่นใจว่า นพ.บัญญัติ จะทำหน้าที่ให้คนแกลง และเขาชะเมาได้อย่างดี
เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกันกับพรรคก้าวไกล นายสาธิต กล่าวว่า เราจะเป็นฝ่ายค้านที่ต่างคนต่างทำหน้าที่ และมีบางเรื่องที่ทำงานร่วมกันได้ ทั้งนี้ การที่พรรคก้าวไกลมีคะแนนเพิ่ม 1 เสียงอาจจะไม่ต่างอะไรมาก เพราะพรรคมีกว่า 150 เสียงแล้ว แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีแค่ 25 เสียงถ้าได้เพิ่มมา 1 เสียง ถือว่าสำคัญและมีค่ามาก โดยเฉพาะคนในพื้นที่ที่จะได้คนทำงานจริงมารับใช้
เมื่อถามว่าภาพลักษณ์ของพรรคจะมีผลต่อการหาเสียงหรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า ภาพลักษณ์พรรคย่อมมีผลต่อคนในพื้นที่อยู่แล้ว แต่วันนี้บัตรใบเดียว เลือก สส. คนเดียว ต้องเป็นผู้แทนของเขตพื้นที่ที่เข้าถึง เข้าใจทุกปัญหา เช่น เรื่องน้ำท่วม ปัญหาเรื่องช้างป่า การเกษตร หรือสาธารณสุข ไม่มีใครรู้ดีเท่าคนในพื้นที่อย่าง นพ.บัญญัติ
อย่างไรก็ตาม การเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ในพรรคต้องพูดคุยกัน และจำเป็นที่ต้องให้พรรคปรับตัวให้นิ่งเพื่อที่จะเดินหน้าต่อให้เร็วที่สุด เราควรจะหารือร่วมกันว่าจะเห็นต่างอย่างไร เราต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ตนเชื่อว่าในทางการเมืองไม่มีอะไรที่คุยกันไม่ได้
ทั้งนี้ที่ตนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปถึงหัวหน้าพรรคให้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ 16 สส. ที่โหวตสวนมติพรรค เน้นไปที่ สส. ท่านหนึ่งที่มีพฤติกรรมเสื่อมเสียและเป็นปฏิปักษ์กับกรรมการบริหารพรรค แต่อีกหลายท่านก็เป็นแค่การโหวตตามเอกสิทธิ์ ขึ้นอยู่กับกรรมการที่ตั้งมาตรวจสอบ พร้อมย้ำว่าเป็นพรรคการเมืองก็ต้องคุยกัน เมื่อถามต่อว่าจะจบสวยหรือไม่ นายสาธิตตอบว่าไม่ทราบ ต้องคุยกัน