ผบ.ทร. ทิ้งทวน เซ็นต์อนุมัติใช้เครื่องยนต์จีนติดเรือดำน้ำไทย

01 ก.ย. 2566 | 11:30 น.
อัพเดตล่าสุด :01 ก.ย. 2566 | 11:30 น.

พล.ร.อ.เชิงชาย ทิ้งทวนเก้าอี้ ผบ.ทร. เซ็นต์อนุมัติใช้เครื่องยนต์จีนติดเรือดำน้ำไทย พร้อมไฟเขียวงบ 200 ล้าน กู้เรือหลวงสุโขทัย 

ภายในงานพบปะสานสัมพันธ์สื่อมวลชนก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนกันยายนนี้ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวระบุตอนหนึ่งว่า สื่อเป็นกลางในการนำเสนอเรื่องที่ดี และเรื่องที่เคลือบแคลงโดยไม่ได้บิดเบือนให้ประชาชนได้รับทราบ เราเปิดเผยทุกเรื่อง ไม่ปิดบัง

กองทัพเรือพยายามเผยแพร่ข้อมูลทาง โฆษกกองทัพเรือ ซึ่งตนยันยันว่าได้ว่า จัดทำข้อมูลในเอกสารข่าวตามความจริงทุกประการ และ โฆษกฯก็ตอบคำถามได้ทุกประเด็น

ช่วงปีที่ผ่านมามีหลายเรื่องซึ่งตั้งแต่ตนรับหน้าที่ก็ให้สัมภาษณ์สื่อว่าในรอบปีที่เข้ามารับตำแหน่งจะทำอะไรบ้างเป็นข้อ ๆ ถ้าย้อนกลับไป ณ วันนั้น ตนได้ทำตามที่พูดไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือดำน้ำ เรื่องของการจัดหาเรือฟริเกต การรับมอบรล.ช้าง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบก การปรับปรุง

การประเมินยุทธศาสตร์กองทัพเรือเพื่อมองไปในอนาคต ถือว่าในรอบปีตนได้ทำตามสัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรที่ติดค้างที่จะต้องฝากให้ ผบ.ทร.และทีมบริหารรุ่นใหม่ดำเนินการต่อไป เพียงแต่สานต่อการดำเนินการ หรือจะคิดใหม่ ทำใหม่ก็แล้วแต่ผู้บริหารที่จะเข้ามา 

ทั้งนี้ รายงานว่า พล.ร.อ.เชิงชาย  ได้ลงนามเห็นชอบเครื่องยนต์ CHD 620 ที่ผลิตจากบริษัทของจีนเพื่อติดตั้งในเรือดำน้ำ S26T เรียบร้อยแล้วหลังจากคณะทำงานในการเจรจาเรื่องดังกล่าวได้พูดคุยกับ บริษัท CSOC หลายรอบ

โดย ทร.ส่งทีมคณะทำงานด้านเทคนิคไปร่วมประเมินประสิทธิภาพก่อนสรุปให้กับประธานคณะกรรมการโครงการเรือดำน้ำที่มี พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือเป็นประธาน  และได้รับข้อเสนอในการเพิ่มการรับประกันจาก 10 ปี เป็น20 ปี การส่งกำลังบำรุง อะไหล่ และระบบอาวุธในเรือเพิ่มเติมโดยไม่รับข้อเสนอในการซื้อเรือดำน้ำมือสองในราคาถูก เพราะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมในการซ่อมบำรุงและต้องมีภาระในด้านอื่นที่ต้องปรับสภาพพร้อมใช้งานจริง

ในระหว่างนี้เครื่องยนต์ดังกล่าวอยู่ระหว่างติดตั้งในเรือดำน้ำของปากีสถานที่ติดตั้งในเรือดำน้ำรุ่นดังกล่าวนำร่องเพื่อเตรียมทดสอบการใช้งานจริงนำร่องไปแล้ว

สำหรับความคืบในการกู้เรือหลวงสุโขทัยนั้น พล.ร.อ.เชิงชาย ได้อนุมัติให้ พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เตรียมทีโออาร์ เชิญชวนบริษัทที่จะเข้าทำการกู้เรือและคาดว่าจะลงนามได้ภายในสองสัปดาห์นี้

โดยสำนักงบประมาณอนุมัติงบกลางให้ 90 ล้านบาท และกองทัพเรือได้จัดหางบประมาณในส่วนของกองทัพเรือ 110 ล้าน โดยจะใช้ระยะเวลาในการกู้เรือประมาณ 3 เดือน

หลังจากที่มีการประเมินความคุ้มค่าจากเครื่องอุปกรณ์ อาวุธต่าง ๆและจะเป็นวัตถุพยานประกอบกับคำให้การเหตุอับปางของเรือ ก่อนคณะกรรมการสรุปฯ ผลเพื่อดำเนินการต่อไป 

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า หลังจาก พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการซึ่งจะมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทร.คนใหม่เข้ามารับตำแหน่งได้เตรียมแนวทางในการทำงานในช่วง1 ปี เพื่อเรียกความเชื่อถือ ศรัทธา และ ความไว้วางใจต่อ ทร.ในสายตาประชาชนให้กลับมา

หลังจากที่ ทร.ประสบปัญหาหลายเรื่องจนกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพทั้งที่เคยเป็นที่พึ่งของประชาชนในหลายโอกาส ไล่ตั้งแต่ เรือหลวงสุโขทัย เหตุอาวุธกระสุนหายในคลังแสง กำลังพลนอกแถวที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม โครงการจัดหาอาวุธที่เป็นปัญหาในอดีต

"จะเป็นปีที่ ทร.จะเริ่มดีขึ้นในทุกๆ ด้าน หลังจากที่ปัญหาทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย เมื่อรื้อมาดูเนื้อในแล้วจะเห็นว่าท ทร.มีระเบียบ หลักการปฏิบัติ ที่เป็นลายลักษณ์อักษรกำกับไว้ในเอกสารหมดแล้ว แต่เมื่อนำไปปฏิบัติทุกวันก็ไม่เป็นเหมือนที่กำหนดไว้ เหมือนเครื่องยนต์ที่หลวม ก็ต้องมีการขันน็อตให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อให้การทำงานเดินหน้า อย่างเช่นกรณีคลังอาวุธที่กำลังพลนำออกไปขายข้างนอก ทั้งที่มีการวางระบบตรวจสอบไว้แล้ว

อีกทั้งต้องหาแนวทางในการสื่อสารให้สังคมเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของทหาร การเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพตามความเหมาะสม ทั้งโครงการเรือดำน้ำ ที่ถูกโจมตีช่วงเวลาที่ผ่านมาว่าปัญหาเกิดจากอะไร และได้แก้ไขอย่างไร เป็นต้น" แหล่งข่าวระบุ