วันนี้ (30 สิงหาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีของกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการจัดวางบุคคลไม่เหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆ ว่า เรื่องนี้ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล และให้เกียรติผู้ประสานงานในการจัดตั้งรัฐมนตรี
“คิดว่าหน้าตาหรืออะไรก็ตาม ทุกคนมีสิทธิคิดกันได้ แต่ต้องให้เกียรติตัวว่าที่รัฐมนตรีด้วย โดยมั่นใจว่ารัฐบาลของเรามีภารกิจสำคัญมาก และมีเป้าหมายในการทำงานอย่างชัดเจน เราขอวัดด้วยตรงนี้ เพราะทุกคนต้องเริ่มงานกันแล้ว” นายเศรษฐา กล่าว
ขณะที่กรณีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำจดหมายเปิดผนึก ถึงนายกรัฐมนตรี และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุว่าที่ 4 รัฐมนตรีอาจมีพฤติกรรมส่อขัดรัฐธรรมนูญ และเสี่ยงไม่ผ่านคุณสมบัติรัฐมนตรีนั้น ล่าสุดยังไม่ได้รับข้อมูล แต่ยอมรับว่า ทั้ง 4 คนเป็นบุคคลที่เหมาะสมในการเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เหลือแค่การตรวจสอบคุณสมบัติจาก สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เท่านั้น
ส่วนกระแสการวิพากษ์วิจารณ์การมีชื่อนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพลเรือนมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายเศรษฐา กล่าวว่า นายสุทิน เป็นนักการเมืองอาวุโส เป็น สส.มาหลายสมัย และให้เกียรติผู้อื่นเสมอ
ทั้งนี้เชื่อว่าจะสามารถประสานงานกับกองทัพหวังว่าจะเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งตนในฐานะนายกรัฐมนตรีก็จะเข้าไปช่วยดูแลในส่วนนี้ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าว่าทุกหน่วยงานได้รับการดูแล เอาใจใส่แล้วจะพูดคุยอย่างเหมาะสมแล้วก็สมฐานะ
อย่างไรก็ตามในการจัดตั้งครม.นั้น ที่ผ่านมาได้คุยกับนางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เชื่อว่าระยะเวลาในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ถูกเสนอรายชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน หลังจากนั้นจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
ส่วนกรณีกระแสข่าวว่ามีว่าที่รัฐมนตรีบางคนคุณสมบัติอาจไม่ผ่านนั้น นายเศรษฐา ยอมรับว่า ยังไม่ได้รับทราบเรื่องนี้ เพราะเรื่องยังไม่ได้แจ้งมาถึง
ขณะที่ความคืบหน้าการจัดทำนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา นายเศรษฐา ระบุว่า ตอนนี้คืบหน้าไปมากแล้ว ล่าสุดได้คุยกับพรรคภูมิใจไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นคนเจรจาและรวบรวมข้อมูลอยู่ และวันนี้ เวลา 11.00 น.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ รทสช. จะมาคุยที่พรรคเพื่อไทย
“ยืนยันมีความคืบหน้าตลอด ไม่ต้องห่วงเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน เราอยากให้มีการแถลงนโยบายโดยเร็วหลังจากที่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้วประเทศจะได้เดินไปข้างหน้าได้ และมีหลายเรื่องที่ต้องทำถือเป็นภารกิจหนัก”